บทลงโทษการผิดประเวณี
  จำนวนคนเข้าชม  48761

 

 

 

บทลงโทษการผิดประเวณี

 

          การผิดประเวณี  คือ  การทำอนาจารในอวัยวะเพศของผู้หญิงผู้ซึ่งเป็นที่ต้องห้ามสำหรับเขา

บทบัญญัติเกี่ยวกับการผิดประเวณี

          การผิดประเวณีเป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม)  และเป็นบาปใหญ่รองจากการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺและการฆ่าชีวิตผู้อื่นโดยไม่ถูกต้องและความผิดนั้นจะไม่เท่าเทียมกัน  ดังนั้นการผิดประเวณีกับผู้ที่มีสามี  กับผู้ที่เป็นเครือญาติ (มะหฺรอม)  กับภรรยาของเพื่อนบ้านจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงยิ่ง


อันตรายของการผิดประเวณี

          ผลเสียจากการผิดประเวณี มันคือตัวทำลายระเบียบของโลกใบนี้ในการรักษาเชื้อสายวงศ์ตระกูล  รักษาความบริสุทธิ์  และรักษาสิ่งที่ศาสนาห้าม  การผิดประเวณีจะรวมความชั่วช้าทั้งหลาย  จะเปิดประตูสู่การละเมิดฝ่าฝืน  และทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ  เป็นที่มาของความยากจน  ผู้คนจะรังเกียจคนที่ทำผิดประเวณี  และใบหน้าของผู้ที่ทำผิดประเวณีจะมีสัญลักษณ์และเขาจะหลบหนีจากผู้คน

          สำหรับการผิดประเวณีจะมีโทษหนัก  โทษในโลกดุนยาสำหรับผู้ที่แต่งงานแล้วคือ  การขว้างกับหินจนกระทั่งเสียชีวิต  สำหรับผู้ที่เป็นโสดคือ  การเฆี่ยนตีและเนรเทศ  ส่วนโทษในโลกอาคิเราะฮฺคือ  หากไม่เตาบะฮฺมีโทษสถานหนักคือ  ผู้ที่ทำผิดประเวณีทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะถูกรวมไว้บนเตาในนรกญะฮันนัมสภาพที่เปลือยกาย 

อัลลอฮฺตะอะลาตรัสว่า

“และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮฺ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮฺทรงห้ามไว้เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม

และพวกเขาไม่ผิดประเวณี

และผู้ใดกระทำเช่นนั้น เขาจะได้พบกับความผิดอันมหันต์   การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา

และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ   เว้นแต่ผู้ที่กลับเนื้อกลับตัวและศรัทธาและประกอบการงานที่ดี

เขาเหล่านั้น อัลลอฮฺจะทรงเปลี่ยนความชั่วของพวกเขาเป็นความดี  และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอภัย ผู้ทรงเมตตาเสมอ” 

(อัลฟุรกอน / 68 - 70)

          อัลมุหฺศ็อน  คือ  ผู้ที่แต่งงานแล้วเป็นผู้ที่ผ่านการร่วมประเวณีกับภรรยาโดยการแต่งงานที่ถูกต้อง  ในขณะที่ทั้งคู่สามี  ภรรยาเป็นอิสรชน  และบรรลุศาสนภาวะ  ส่วน อัลบิกรฺ  คือ  ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติตามที่กล่าวมา


แนวทางป้องกันจากการผิดประเวณี

          การแต่งงานตามหลักการอิสลามคือหนทางที่ปลอดภัยที่สุด  ที่จะมายับยั้งอารมณ์และรักษาเผ่าพันธุ์และไม่อนุญาตให้ระบายนอกเหนือจากแนวทางที่อิสลามกำหนด  อิสลามได้สั่งใช้ให้ปกปิดด้วยฮิญาบ  ลดสายตา  และห้ามผู้หญิงเดินโดยไม่มีสิ่งใดปิดเท้า  เผยโฉม  ปะปนกับผู้ชาย  โชว์เครื่องประดับ  อยู่ร่วมกับผู้ชายตามลำพัง  หรือจับมือผู้ชาย  และเช่นเดียวกันห้ามผู้หญิงเดินทางโดยไม่มีญาติใกล้ชิด  ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นการป้องกันผู้หญิงและผู้ชายไม่ให้ตกอยู่ในวังวนการทำผิดประเวณี


การผิดประเวณีด้วยกับอวัยวะต่างๆ

عن أبي هريرة رضي الله عنه عن النبي ﷺ قال: «كُتِبَ عَلَى ابنِ آدَمَ نَصِيبُـهُ مِنَ الزِّنَى، مُدْرِكٌ ذَلِكَ لَا مَـحَالَةَ، فَالعَيْنَانِ زِنَاهُـمَا النَّظَرُ، وَالأُذُنَانِ زِنَاهُـمَا الاسْتِـمَاعُ، وَاللِّسَانُ زِنَاهُ الكَلامُ، وَاليَدُ زِنَاهَا البَطْشُ، وَالرِّجْلُ زِنَاهَا الخُطَا، وَالقَلْبُ يَـهْوَى وَيَتَـمَنَّى، وَيُصَدِّقُ ذَلِكَ الفَرْجُ وَيُكَذِّبُـهُ». متفق عليه

     ความหมาย  จากอบีฮุรอยเราะฮฺ  เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ  จากท่านนบี กล่าวว่า 

"ส่วนแบ่งจากการผิดประเวณีถูกกำหนดให้แก่ลูกหลานอาดัม  ซึ่งต้องเกิดขึ้นโดยมิอาจเลี่ยงได้ 

ดังนั้นด้วยกับ สองตาผิดประเวณีโดยการมอง  สองหูผิดประเวณีโดยการฟัง  ลิ้นผิดประเวณีโดยการพูด  มือผิดประเวณีโดยการสัมผัส 

เท้าผิดประเวณีโดยการเก้าย่าง  และหัวใจโดยการใฝ่ฝันและจิตนาการ  ส่วนจะเกิดขึ้นหรือไม่อยู่ที่อวัยวะเพศ” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 6243 และมุสลิม หมายเลขหะดีษ 2657 สำนวนหะดีษเป็นของท่าน)


โทษของผู้ทำผิดประเวณี

          1. โทษของผู้ที่แต่งงานแล้ว (อัลมุหฺศ็อน) คือ  การขว้างด้วยกับก้อนหินจนกระทั่งเสียชีวิต  ไม่ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง  มุสลิมหรือกาฟิร

          2. โทษของผู้ที่ยังไม่แต่งงาน (อัลบิกรฺ)  คือ  เฆี่ยนตี 100 ครั้ง  และเนรเทศเป็นเวลา 1 ปี  ไม่ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง  และสำหรับทาสถูกเฆี่ยน 50 ครั้ง ไม่ต้องเนรเทศไม่ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

          เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งตั้งครรภ์โดยที่ไม่มีสามีหรือไม่มีเจ้านายก็จะถูกลงโทษ  หากนางไม่ได้อ้างถึงความคุมเครือหรือถูกบังคับ  และผู้ใดบังคับให้ผู้หญิงทำผิดประเวณีผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษ ส่วนนางจะได้รับการยกโทษและนางก็จะได้รับสินสอด (ค่าเสียหาย)


เงื่อนไขของโทษผิดประเวณี

เงื่อนไขในการลงโทษผู้ทำผิดประเวณีมี 3 ประการ

          1. อวัยวะเพศของผู้ชายล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศผู้หญิงที่ยังมีชีวิต

          2. ไม่มีการคลุมเครือ (เข้าใจผิดว่าเป็นภรรยาตัวเอง – ผู้แปล)  ฉะนั้นไม่มีการลงโทษผู้ที่ร่วมประเวณีกับผู้หญิงที่เข้าใจว่าเป็นภรรยาของตัวเอง

          3. สามารถยืนยันได้ว่ามีการผิดประเวณีจริง

3.1  โดยการยอมรับสารภาพ  เป็นการยอมรับของผู้ที่มีสติปัญญาดีหนึ่งครั้ง  และสี่ครั้งสำหรับผู้ที่ต้องสงสัยว่าสติไม่ดี  และทั้งสองกรณีต้องยอมรับชัดเจนว่าร่วมประเวณีจริงและจะต้องยอมรับตลอดไปจนถึงมีการลงโทษ

3.2  โดยมีพยาน  จะต้องมีพยานมายืนยันจำนวน 4 คน  เป็นผู้ชายมุสลิมที่มีความเที่ยงธรรมเป็นพยานได้


ผู้ที่ต้องถูกลงโทษจากการผิดประเวณี

     1. ผู้ทำผิดประเวณีจะถูกลงโทษไม่ว่าจะเป็นมุสลิมหรือกาฟิร (ผู้ปฏิเสธ) เพราะเป็นการลงโทษต่อการผิดประเวณี  ดังนั้นจำเป็นต้องลงโทษต่อกาฟิรด้วย  เช่นเดียวกับการชดใช้ในกรณีการฆ่าและการตัดมือในกรณีลักขโมย
 
     2.  เมื่อผู้ที่แต่งงานแล้วทำผิดประเวณีกับผู้ที่เป็นโสด  ดังนั้นโทษของเขาคือขว้างด้วยก้อนหินเฆี่ยนตีหรือเนรเทศ
     
    
  3.  เมื่อผู้เป็นไท (อิสรชน) ทำผิดประเวณีกับทาสีหรือตรงกันข้าม  ดังนั้นแต่ละคนก็ต้องรับโทษของตัวเอง

      4.  ผู้ที่ทำผิดประเวณีจะถูกลงโทษเมื่อเขาเป็นผู้ที่บรรลุศาสนภาวะ  มีสติสัมปชัญญะ ไม่ถูกบังคับ รู้ว่าเป็นสิ่งต้องห้าม  หลังจากที่เขายืนยันต่อผู้ปกครอง(ฮากิม) โดยการรับสารภาพหรือโดยมีพยาน พร้อมกับไม่มีสิ่งที่คลุมเครือ

          ผู้ที่ถูกลงโทษโดยการขว้างกับก้อนหินไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายไม่ต้องฝัง  แต่ผู้หญิงจะต้องปกปิดด้วยกับเสื้อผ้าเพื่อมิให้เปิดเผยเรือนร่าง

          ผู้หญิงใดที่ตั้งครรภ์จากการผิดประเวณีหรือนางรับสารภาพว่าผิดประเวณี  ให้อิมาม (ผู้นำ)เป็นบุคคลแรกทำการขว้างหินหลังจากนั้นผู้คนทั่วไป  ถ้าหากมีการยืนยันการผิดประเวณีโดยมีพยาน 4   คน  พวกเขาคือบุคคลกลุ่มแรกที่จะทำการขว้างหินต่อจากนั้นอิมามและจากนั้นผู้คนทั่วไป


กรณีที่ความไม่รู้เป็นสาเหตุห้ามมิให้มีการลงโทษ

          การที่ไม่รู้ถึงสิ่งที่ตามมาจากการกระทำสิ่งต้องห้ามมิใช่อุปสรรคในการลงโทษ  สำหรับการที่ไม่รู้ว่าการกระทำนั้นต้องห้ามหรือไม่นั้นคืออุปสรรค  ฉะนั้นผู้ใดรู้ว่าการผิดประเวณีเป็นสิ่งต้องห้ามแต่ไม่ว่ารู้บทลงโทษของมันคือการขว้างด้วยหินหรือการเฆี่ยนตีการไม่รู้ของเขามิใช่อุปสรรค  แต่ทว่าเขาต้องได้รับการลงโทษ


บทบัญญัติว่าด้วยการเป็นสามี – ภรรยาหลังจากทำผิดประเวณี

          เมื่อคนที่แต่งงานแล้วทำผิดประเวณีภรรยาของเขาก็มิเป็นที่ต้องห้ามต่อเขา  และเช่นเดียวกันหากผู้หญิงที่มีสามีแล้วทำผิดประเวณีนางก็มิเป็นที่ต้องห้ามต่อสามี  แต่เขาทั้งสองนั้นได้กระทำบาปใหญ่  ฉะนั้นต้องสารภาพผิดและขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ

          1.  อัลลอฮฺตะอะลาตรัสว่า

 “และพวกเจ้าอย่าเข้าใกล้การผิดประเวณี  เพราะแท้จิงมันเป็นสิ่งลามกและเป็นทางอันชั่วช้า” 

 (อัลอิสรออ์ / 32)

عن عبدالله بن مسعود رضي الله عنه قال: سألت رسول الله ﷺ أي الذنب أعظم عند الله؟ قال: «أَنْ تَـجْعَلَ لله نِدّاً وَهُوَ خَلَقَكَ» قَالَ: قُلْتُ لَـهُ إنَّ ذَلِكَ لَعَظِيمٌ، قَالَ قُلْتُ ثُمَّ أَيٌّ؟ قَالَ: «ثُمَّ أَنْ تَقْتُلَ وَلَدَكَ مَـخَافَةَ أَنْ يَطْعَمَ مَعَكَ» قُلْتُ ثُمَّ أَيٌّ؟ قَالَ: «ثُمَّ أَنْ تُزَانِيَ حَلِيلَةَ جَارِكَ». متفق عليه

          2.  ความหมาย  จากอับดุลลอฮฺ บิน มัสอูด เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ กล่าวว่า  ฉันได้เรียนถามท่านรอสูลุลลอฮฺ ว่า 

“ความผิดอันใดที่ร้ายแรงที่สุด ณ อัลลอฮฺ? 

ท่านตอบว่า การที่ท่านได้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺในขณะที่พระองค์ได้ทรงสร้างบังเกิดท่าน  

ฉัน (อิบนุมัสอูด) ได้กล่าวว่า ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ  ฉันถามว่า  หลังจากนั้นความผิดอันใดอีก? 

ท่านตอบว่า  การที่ท่านฆ่าลูกเพราะกลัวว่าจะเขาจะเอาอาหารของท่าน 

ฉันถามอีกว่า  หลังจากนั้นความผิดอันใดอีก? 

ท่านตอบว่า   การที่ท่านทำผิดประเวณีกับภรรยาของเพื่อนบ้านของท่าน” 

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 6811 และมุสลิม หมายเลขหะดีษ 86 สำนวนหะดีษเป็นของท่าน)


บทบัญญัติเกี่ยวกับผู้ทำผิดประเวณีกับญาติใกล้ชิด

          ผู้ใดที่ทำผิดประเวณีกับญาติใกล้ชิด  เช่น  พี่สาว   ลูกสาว  ภรรยาของพ่อ  หรือคนอื่นๆ ที่อยู่สถานะเดียวกัน  ในสภาพที่เขารู้ว่าเป็นสิ่งต้องห้ามจำเป็นจะต้องประหารชีวิต

عن البراء رضي الله عنه قالَ: أَصَبْتُ عَمِّي وَمَعَهُ رَايةٌ فَقُلتُ أينَ تُريدُ؟ فقالَ: بَـعثني رسُولُ الله ﷺ إلَى رَجُلٍ نَكَحَ امْرَأَةَ أَبِيهِ فَأَمَـرَنِي أَنْ أَضْرِبَ عُنُقَهُ وآخُذَ مَالَـهُ». أخرجه الترمذي والنسائي

ความหมาย  จากอัลบัรรออ์ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ กล่าวว่า  ฉันได้เจอกับคุณลุงของฉันขณะที่ถือธง ฉันได้ถามว่าท่านต้องการไปไหน?  ดังนั้นเขาตอบว่า 

"ท่านรอสูลุลลอฮฺ ได้ส่งฉันไปยังชายคนหนึ่ง เขาได้แต่งงานกับภรรยาของพ่อของเขา ท่านได้สั่งให้ฉันตัดคอของเขาและให้ฉันเอาทรัพย์สินของเขา” 

 

(บันทึกโดยอัตติรมิซียฺ หมายเลขหะดีษ 1362  และอันนะสาอีย์ หมายเลขหะดีษ 3332 นี้เป็นสำนวนหะดีษเป็นของท่าน)

 

 

มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย์

แปลโดย : ยูซุฟ อบูบักรฺ / Islam House