อับดุลลอฮ์ กับ อับดุนนะบีย์ 3
อับดุนนบีย์ : แต่อายาต(โองการต่างๆ)เหล่านั้น ถูกประทานลงมาเกี่ยวกับผู้ที่กราบไหว้รูปปั้น แล้วพวกคุณจะให้ คนดี ๆ (ซอลิฮฺ) ไปเหมือนกับบรรดารูปปั้น (อัศนาม) ได้อย่างไรกัน ? หรือคุณจะให้บรรดานะบีไปเหมือนกับบรรดาเจว็ดรูปปั้น ได้อย่างไร ?
อับดุลเลาะฮฺ : ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า บรรดารูปปั้น รูปเคารพ ( อัศนาม) ต่างๆ นั้น เป็นชื่อของบรรดาคนดี ๆ (ซอลิฮ์) ตั้งแต่สมัยของท่านนบีนูฮ์ และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา (กุฟฟ๊าร) ก็มิได้ต้องการอะไรนอกจากให้พวกนั้นช่วยขอชะฟาอะฮ์ จากอัลลอฮ์ เพราะพวกเขามีตำแหน่งมีความสำคัญ ณ พระองค์ ดังหลักฐานจากดำรัสของอัลลอฮ์ ที่ว่า
และบรรดาผู้ที่ยึดเอาอื่นจากอัลลอฮ์เป็นผู้คุ้มครอง (วะลีย์) โดยกล่าวว่า เรามิได้เคารพสักการะ (อิบาดะฮ์)ต่อพวกเขานอกจากเพียงเพื่อช่วยให้เราได้ใกล้ชิดกับอัลลอฮ์เท่านั้น ( อัซซุมัรอายะฮฺที่ 3 )สำหรับคำพูดของคุณที่ว่า พวกท่านจะทำให้บรรดาวะลีย์ และบรรดานะบีกลายเป็นเจว็ด รูปปั้น รูปเคารพ (อัศนาม) กันได้อย่างไรนั้น ? เราขอบอกว่า แท้จริง บรรดากุฟฟ๊าร ผู้ปฏิเสธศรัทธา ที่ท่านนะบี ถูกส่งไปนั้น มีพวกเขาบางคนที่วิงวอนขอต่อบรรดาวะลีย์ ดังที่อัลลอฮ์ ตรัสว่า
บรรดาอื่นจากอัลลอฮ์ ที่พวกเขาวิงวอนขอนั้น พวกมันก็ยังต้องการที่จะหาหนทางเข้าสู่พระเจ้าของพวกมันว่า ใครในพวกมันที่จะได้เข้าใกล้ชิดที่สุด และพวกมันยังหวังในความเอ็นดูเมตตาของพระองค์ และกลัวการลงโทษของพระองค์ ( อัลอิสร็ออฺ / 57 )
ในหมู่พวกเขา มีผู้ที่วิงวอนขอต่อท่านนะบีอีซา และมารดาของท่าน อัลลอฮ์ ตรัสว่า
และจงรำลึกถึงขณะที่อัลลอฮฺ ตรัสว่า โอ้ อีซา ลูกของมัรยัม เจ้าพูดกับผู้คนกระนั้นหรือ ว่า จงยึดเอาฉันและแม่ของฉันเป็นพระเจ้าสององค์ นอกเหนือไปจากอัลลอฮ์ ? ( อัลมาอิดะฮฺ / 116 )และในหมู่พวกเขา มีผู้ที่วิงวอนขอต่อบรรดามลาอิกะฮ์ ดังที่อัลลอฮ์ ตรัสว่า
และวันที่พระองค์จะทรงรวบรวมพวกเขาไว้ทั้งหมด แล้วพระองค์จะตรัสกับบรรดามลาอิกะฮ์ว่า พวกเหล่านั้นนะหรือที่สักการะ ( อิบาดะฮ์ ) ต่อพวกเจ้า (สะบะอ์ / 40)ดังนั้น จงพิจารณาอายาต(โองการต่างๆ)ให้ดี แท้จริง อัลลอฮ์ทรงปฏิเสธการศรัทธาไว้ในอายะฮ์ของผู้ที่มุ่งสู่เจว็ดรูปเคารพ ( อัศนาม ) และทรงปฏิเสธการศรัทธาของผู้ที่มุ่งหมายสู่คนดีๆ ( ซอลิฮีน ) ไม่ว่าจะเป็นบรรดานะบี บรรดามลาอิกะฮ์ และท่านเราะซูลุลลอฮ์ได้สู้รบกับพวกเขาด้วยเหตุผลดังกล่าว โดยมิได้แบ่งแยกพวกเขาออกจากกันแต่ประการใด
อับดุนนบีย์ : แต่ทว่าบรรดากุฟฟ๊ารต้องการความช่วยเหลือจากบุคคลเหล่านั้น และผมขอปฏิญาณว่า อัลลอฮ์ คือ ผู้ทรงยังประโยชน์ ผู้ทรงให้โทษ ผู้ทรงบริหารจัดการ ผมไม่ต้องการจากใครนอกจากพระองค์เท่านั้น และไม่ใช่เรื่องของบรรดาคนดี ๆ ( ซอลิฮฺ ) แต่อย่างใด แต่ทว่า ผมมุ่งไปที่พวกเขาโดยหวังว่า อัลลอฮ์คงจะให้พวกเขาได้ขอให้ทำการช่วยเหลือ ( ชะฟาอะฮฺ ) ให้ เท่านั้น
อับดุลเลาะฮ์ : คำพูดของคุณนี้เหมือนกับคำพูดของผู้ปฏิเสธศรัทธา ( กุฟฟ๊ารฺ ) ยังไงยังงั้นเลย หลักฐาน ดังดำรัสของอัลลอฮ์ ที่ว่า และพวกเขาเคารพสักการะ (อิบาดะฮ์) สิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ์ทั้งๆที่มันมิได้ให้โทษแก่พวกเขาและมิได้ให้คุณแก่พวกเขาแต่อย่างใดและพวกเขากล่าวว่า เหล่านี้คือบรรดาผู้ช่วยขอความช่วยเหลือ (ชะฟาอะฮ์) ให้แก่เรา ณ อัลลอฮ์ เท่านั้น (ยูนุส / 18)
อับดุนนบีย์ : แต่ทว่าผมมิได้อิบาดะฮฺผู้ใดนอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น และนี่เป็นเพียงการพึ่งพาอาศัยพวกเขา และวอนขอต่อพวกเขา มิใช่ไปกราบไหว้ ( อิบาดะฮ์ ) พวกเขาสักหน่อย !
อับดุลเลาะฮ์ : แต่ทว่าผมอยากจะถามอะไรคุณสักหน่อย คุณมิได้อ่านดอกหรือว่า อัลลอฮ์ทรงกำหนดให้คุณทำอิบาดะฮ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ (อิคล๊าศ ) ต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น และนั่นเป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องทำเช่นนั้น ดังดำรัสของพระองค์ ที่ว่า
และพวกเขามิได้ถูกใช้ให้กระทำสิ่งใด นอกจากเพื่ออิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ ในฐานะเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ใจต่อศาสนาอันเที่ยงตรงของพระองค์ และเป็นผู้ดำรงการละหมาดไว้ ( อัลบัยยินะฮ์ / 5)
อับดุนนบีย์ : ถูกต้องแล้ว ผมถูกกำชับให้ทำเช่นนั้น !
อัลดุลเลาะฮ์ : และฉันต้องการให้คุณอธิบายให้ทราบถึงสิ่งที่อัลลอฮ์ ทรงกำชับให้คุณทำ นั่นก็คือ การอิบาดะฮ์ด้วยความอิคล๊าศ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของพระองค์ที่พึงได้รับจากคุณมิใช่หรือ ?
อับดุนนบีย์ : ผมไม่ทราบอับดุลเลาะฮฺ : ฉันจะอธิบายให้ ฟัง ดังนั้น จงฟังให้ดี
อัลลอฮ์ ตรัสว่า
พวกเจ้าจงวิงวอนขอต่อพระเจ้าของพวกเจ้าด้วยความนอบน้อม ถ่อมตนและปกปิด ไม่เปิดเผย ( อัล อะอฺร็อฟ / 55 )
ดังนั้น การวอนขอ (อัดดุอาอ์) เป็นการขอต่ออัลลอฮ์ใช่หรือไม่ ? เป็นการ อิบาดะฮ์ ใช่หรือไม่ ?อับดุนนบีย์ : ใช่ ! และยังเป็นส่วนสำคัญของการอิบาดะฮ์อีกด้วย ดังปรากฏในฮะดีษของท่านนะบีที่ว่า อัด ดุอาอ์ คือ การอิบาดะฮ์ الدعاء هو العبادة] [ หมายถึง การอิบาดะฮ์ที่ใสสะอาดและบริสุทธิ์ยิ่ง และเป็นหัวใจของการอิบาดะฮ์นั่นเอง
อับดุลเลาะฮ์ : ในเมื่อคุณยอมรับว่า ดุอาอ์เป็นอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ และคุณก็วิงวอนขอต่ออัลลอฮ์ ทั้งกลางคืนและกลางวัน ด้วยความหวาดหวั่น และคาดหวังจะได้รับ ในสิ่งที่คุณต้องการ แล้วคุณก็ไปขอต่อนะบี หรือมลาอิกะฮ์ หรือคนซอลิฮ์ที่กุบูร์(หลุมศพ)ของพวกเขา แล้วที่คุณทำอิบาดะฮ์อย่างนี้นั้นเท่ากับเป็นการทำชิริกหรือเปล่า ?
อับดุนนบีย์ : ถูกต้อง เป็นการทำชิริก และคำพูดดังกล่าวก็ถูกต้องแล้ว !
อับดุลเลาะฮ์ : ยังมีตัวอย่างอื่นๆ อีก นั่นคือ เมื่อคุณรู้ว่า อัลลอฮ์ ตรัสว่า
ดังนั้น เจ้าจงละหมาดเพื่อพระเจ้าของเจ้า และจงเชือดสัตว์พลี (เพื่อพระองค์) (อัลเกาซัร / 2 )
แล้วคุณก็เชื่อฟังปฏิบัติตามคำสั่งที่มาจากอัลลอฮ์และคุณก็เชือดสัตว์พลีเพื่อพระองค์ ดังกล่าวนี้ เป็นการ อิบาดะฮ์ ใช่หรือเปล่า ?
อับดุนนบีย์ : ถูกแล้ว นี่เป็นการทำอิบาดะฮ์
อับดุลเลาะฮ์ : ดังนั้น ถ้าคุณเชือดเพื่อใครอื่น หรือเชือดเพื่อนะบี หรือเชือดเพื่อญิณ? ดังกล่าวนั้นเท่ากับว่าคุณได้ทำชิริกในการทำอิบาดะฮ์เช่นนี้ เพื่ออื่นจากอัลลอฮ์ ใช่หรือไม่ ?อับดุนนบีย์ : ถูกต้อง นี่คือ ชิริกอย่างไม่ต้องสงสัย !
อับดุลเลาะฮ์ : และผมจะยกตัวอย่างให้คุณฟังเกี่ยวกับเรื่องการขอดุอาอ์และการเชือด เพราะการขอดุอาอ์เป็นชนิดหนึ่งของการทำอิบาดะฮ์ด้วยคำพูด และ การเชือดก็เป็นชนิดหนึ่งของการทำอิบาดะฮ์ ด้วยกับการกระทำ อิบาดะฮ์นั้นมิใช่จะเจาะจงอยู่เพียงเฉพาะสองประการนี้ แต่มันกว้างไกลมากกว่าที่กล่าวมา เช่น เรื่องการบนบาน ( นะซัร ) การสาบาน ( ฮะลัฟ ) การขอความคุ้มครอง ( อัลอิสติอาซะฮ์ ) และการขอความช่วยเหลือ ( อัลอิสติอานะฮ์ ) เป็นต้น ซึ่งเข้าอยู่ในเรื่องของอิบาดะฮ์ทั้งสิ้น แต่ทว่า บรรดามุชริกีนที่อัลกุรอานระบุถึง พวกเขาเคารพสักการะ ( อิบาดะฮ์ ) ต่อบรรดามลาอิกะฮ์ ต่อบรรดาคนดีๆ ( ซอลิฮ์ ) อิบาดะฮ์ต่อบรรดาเจว็ด รูปปั้น เช่น ล๊าต และสิ่งอื่นๆ ใช่หรือไม่ ?
อับดุนนบีย์ : ที่จริงพวกเขาทำเช่นนั้น จริง ๆอับดุลเลาะฮ์ : และการทำอิบาดะฮฺของพวกเขาต่อบรรดาสิ่งเหล่านั้น มีเฉพาะแต่การวิงวอนขอ (ดุอาอ์) การเชือด แค่นั้นหรือ ? ถ้าไม่เช่นนั้น ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า พวกเขาตกเป็นทาสและอยู่ภายใต้อำนาจของสิ่งเหล่านั้นนั่นเอง ทั้งๆที่อัลลอฮ์ เป็นผู้ทรงบริหารจัดการสิ่งต่าง ๆ แต่พวกเขากลับไปวิงวอนขอเกียรติ อำนาจ และขอให้พวกเหล่านั้นช่วยเหลือ นี่คือสิ่งที่เห็นชัดเจนแล้วมิใช่หรือ ?
อับดุนนบีย์ : คุณอับดุลเลาะฮ์ คุณปฏิเสธการชะฟาอะฮ์ของท่านเราะซูล และไม่ยอมรับการขอ ชะฟาอะฮ์กระนั้นหรือ ?
Part 1 >>>> Click Part 2 >>>> Click Part 3>>>> Click Part 4 >>>> Click
Part 5 >>>> Click Part 6 >>>> Clickแปลโดย อ.มาลิก โยธาสมุทร
จากข้อเขียนของ ดร. มุฮัมมัด บินสุลัยมาน อัลอัชก็อรฺ