ท่านซัลมาน อัลฟาริซีย์ 2
ต่อมา บาทหลวงผู้นั้นก็ถึงแก่กรรม มีพี่น้องชาวคริสต์มาร่วมพิธีฝังศพจำนวนมาก ฉันจึงเปิดเผย ให้ทราบว่าแท้จริงท่านผู้นี้มีพฤติกรรมที่ไม่ดี เพราะใช้และส่งเสริมให้พวกท่านบริจาคทรัพย์สินเงินทอง แต่เมื่อพวกท่านนำมาบริจาคแล้ว เขากลับเก็บสะสมทรัพย์นั้นไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของตนแต่เพียงผู้เดียว ไม่เคยแจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้เลยแม้แต่น้อย
ประชาชนต่างก็ถามฉันว่า :
ท่านรู้เช่นนั้นได้อย่างไร?
ฉันตอบว่า :
ข้าพเจ้าจะชี้แหล่งขุมทรัพย์ให้พวกท่านทราบ
พวกเขากล่าวว่า :
ได้ซิ..ถ้าเช่นนั้นก็จงบอกเราเถิด
ฉันจึงนำไปดูสถานที่ที่ซุกซ่อนทรัพย์ พวกเขาจึงนำเงินและทองคำออกมาทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนถึง เจ็ดเหยือกใหญ่ ประชาชนเห็นเช่นนั้นจึงโกรธมาก พวกเขากล่าวว่า :
ขอสาบานว่า เราจะไม่ฝังศพเขาเด็ดขาด
ต่อจากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันจับศพบาทหลวงนั้นตรึงกางเขนและขว้างด้วยก้อนหิน
ต่อมา อีกไม่กี่วัน ประชาชนก็แต่งตั้งบาทหลวงคนใหม่และฉันก็ยังประจำอยู่กับเขา ณ โบสถ์แห่งนั้น เขาเป็นคนสละโลก ซึ่งฉันไม่เคยเห็นใครเหมือนเขาเลยไม่เคยเห็นใครปรารถนาโลกหน้า ยิ่งไปกว่าเขา แถมยังเป็นผู้ขยันขันแข็งในเรื่องพิธีกรรมศาสนาทั้งวันทั้งคืน โดยมิได้หยุดหย่อน ฉันรักเขาและศรัทธาในตัวเขามาก ฉันอยู่กับเขาระยะหนึ่งจนกระทั่งเขาถึงแก่กรรม และก่อนที่ เขาจะสิ้นใจ ฉันถามว่า :
ท่านครับ..บอกหน่อยได้ไหมว่าหลังจากที่ท่านถึงแก่กรรมแล้ว ฉันจะไปอยู่กับใครอีกต่อไป?
ท่านตอบว่า :
ลูกรัก ไม่มีใครรู้เรื่องศาสนาที่เราเคยปฎิบัตินั้นอีกเลย นอกจากชายผู้หนึ่งซึ่งอยู่ที่ " เมาซิล " เพราะเขาไม่บิดเบือน ไม่เปลี่ยนแปลงศาสนา และสัจธรรมอยู่กับเขา
เมื่อเขาถึงแก่กรรม ฉันก็เดินทางต่อไปยัง " เมาซิล " ทันทีเพื่อที่จะได้พบกับชายที่บาทหลวงบอกไว้ ครั้นพบชายผู้นั้น ณ ที่เมือง " เมาซิล " แล้ว ฉันจึงเล่าเรื่องราวให้เขาทราบว่าได้มีบาทหลวงท่านหนึ่ง สั่งไว้ก่อนตายว่าให้มาหาท่านเพื่อแสวงหาสัจจะธรรม
ชายผู้นั้นได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด จึงกล่าวว่า :
จงอยู่กับเราที่นี่เถิด
ฉันจึงอยู่ที่นั่น พบว่าเขาเป็นคนดีอย่างที่บาทหลวงคนก่อนบอกไว้จริงๆ ขอสาบานได้ว่าฉันอยู่ไม่กี่วัน เขาก็ต้องมีอันเป็นไปอีกคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะตาย ฉันกล่าวกับเขาว่า
ท่านครับ..ท่านก็ทราบจุดประสงค์ของฉันแล้ว บอกฉันหน่อยได้ไหมครับว่าจะไปอยู่กับใคร ต่อไปจึงจะดี?
เขาตอบว่า :
ลูกรัก ขอสาบานว่าเราไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าใครจะรอบรู้เกี่ยวกับเรื่องศาสนาของเรา ดียิ่งไปกว่าชายผู้หนึ่งซึ่งอยู่ที่ " นัซซีบีน "จงไปอยู่กับเขาเถิด
หลังจากฝังศพเสร็จแล้ว ฉันจึงไปหาชายที่อยู่ " นัซซีบีน " และบอกให้ทราบว่าชายที่อยู่ " เมาซิล " สั่งให้มาอาศัยอยู่ด้วย
เขากล่าวว่า :
จงอยู่กับเราเถิด
ฉันจึงอยู่กับเขา และพบว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ ขอสาบานว่าฉันมาอยู่ที่นั่นไม่กี่วัน ชายผู้นั้นก็ถึง แก่กรรม และก่อนตายฉันกล่าวแก่เขาว่า :
ท่านก็ทราบเรื่องของฉันดีอยู่แล้วท่านจะสั่งฉันให้ไปอยู่กับใครต่อไป
เขากล่าวว่า :
ลูกรัก เราไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าจะเหลือผู้ใดที่จะรอบรู้กิจการของเรานอกจากชายผู้หนึ่ง ซึ่งอยู่ที่ "อัมมูรียะห์" สัจจธรรมอยู่กับเขาจงไปหาเขาเถอะ
ต่อจากนั้นฉันจึงไปหาชายที่อยู่ "อัมมูรียะห์" และได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาทราบ
เขากล่าวว่า :
เธอจงพำนักอยู่กับเราที่นี่เถิด
ฉันจึงอยู่ ณ ที่นั้น ขอสาบานว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ และฉันก็ทำงานเลี้ยงวัวเลี้ยงแกะให้ด้วย ต่อมาไม่นานเขาก็ตายไปอีกคนหนึ่ง และก่อนตายฉันถามว่า :
ท่านทราบดีอยู่แล้วว่าฉันมาเพื่อแสวงหาสัจจธรรม จงบอกฉันหน่อยเถิดว่าจะไปหาใครที่ไหนอีก และจะให้ฉันทำอย่างไร?
เขากล่าวว่า :
ลูกรัก ฉันขอสาบานว่าไม่มีใครอีกแล้วที่จะยึดถือและปฎิบัติได้อย่างที่เราเคยยึดถือปฎิบัติ แต่ขณะนี้ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ซึ่งเป็นเวลาแห่งการรอคอย เพราะจะมีนบีท่านหนึ่งเกิดขึ้น ในดินแดนอาหรับ ท่านผู้นี้ถูกแต่งตั้งให้เผยแผ่ตามศาสนาของท่านนบี อิบรอฮีม และท่านผู้นี้จะอพยพจากบ้านเกิด เมืองนอนมายังดินแดนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีต้นอินทผลัมมากมาย อยู่ระหว่างหินร้อนที่มีสีดำคล้ำและ แหลมคม
ท่านผู้นี้มีเครื่องหมายเป็นข้อสังเกตได้อย่างชัดเจน คือท่านจะรับประทานของฮะดียะห์ แต่จะไม่รับประทานสิ่งที่ถูกมอบให้เป็นซ่อดะเกาะห์ และที่บ่า ทั้งสองข้างจะมีตราแห่งการเป็นนบีประทับอยู่ ถ้าเจ้าสามารถไปหาท่านผู้นี้ได้ ณ ดินแดนที่มีลักษณะ ดังกล่าวนั้นแล้ว เจ้าก็จงกระทำเถิด
โปรดติดตามตอนต่อไป
Click<<< ท่านซัลมาน อัลฟาริซีย์ 1 ท่านซัลมาน อัลฟาริซีย์ 3 >>>Click