ท่านอัฏฏุฟัยลฺ อิบนิ อัมรฺ อัดเด๊าซีย์ 2
เมื่อฉันตัดสินใจที่จะกลับไปยังหมู่คณะของฉัน ฉันได้พบกับ ท่านรอซูล และกล่าวแก่ท่านว่า :
โอ้ท่านรอซูล ฉันเป็นคนที่กลุ่มชนของฉันเชื่อฟัง และฉันจะกลับไปเชิญชวนพวกเขาให้เข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้นขอท่านได้โปรดดุอาอฺวิงวอนต่ออัลเลาะห์ให้ฉันมีสัญญาณหนึ่งเพื่อที่จะช่วยฉันในการเชิญชวนพวกเขาเหล่านั้นด้วยเถิด
ท่านรอซูล กล่าวว่า :
ข้าแต่อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงทำให้เขา(ฎุฟัยลฺ) มีสัญญาณหนึ่งที่จะช่วยให้เขาบรรลุถึงซึ่งความดีที่เขาได้ ตั้งเจตนาไว้ด้วยเถิด
ฉันได้ออกไปยังหมู่คณะของฉัน จนกระทั่งไปถึงยอดเขา จึงสามารถมองเห็นหมู่บ้านที่หมู่คณะของฉัน อาศัยอยู่ ณ ที่นั้นมีแสง ซึ่งดูคล้ายตะเกียงปรากฎอยู่ระหว่างดวงตาของฉัน ฉันกล่าวว่า :
ข้าแต่อัลเลาะห์ ขอพระองค์อย่าทรงให้มันอยู่บนใบหน้าของฉัน ด้วยฉันเกรงว่าจะทำให้หมู่คณะของฉันคิดว่ามันเป็นการลงโทษในการที่ฉันเปลี่ยนศาสนา (คือเปลี่ยนจากศาสนาเดิมสู่ศาสนาอิสลาม) ทันใดนั้นแสงได้เปลี่ยนไปอยู่ที่หัวแส้ของฉัน จึงทำให้หมู่คณะของฉันเห็นแสงดังกล่าวอยู่ที่แส้คล้าย ตะเกียงที่ถูกแขวน ขณะที่ฉันกำลังลงจากยอดเขา เมื่อฉันได้ลงมาแล้ว บิดาของฉันซึ่งมีอายุมากแล้วได้มาหาฉัน
ฉันกล่าวแก่ท่านว่า :
จงไปให้ไกลจากฉันเถิด ฉันไม่ใช่พวกของท่านและท่านก็ไม่ใช่พวกของฉัน
บิดาของฉันกล่าวว่า :
ทำไมเล่า โอ้ลูกรัก?
ฉันกล่าวว่า :
แท้จริงฉันได้รับนับถือศาสนาอิสลาม และปฎิบัติตามคำเชิญชวนของท่านนบีมุฮัมหมัด
บิดาของฉันกล่าวว่า :
โอ้ลูกรัก ศาสนาของลูกก็คือศาสนาของพ่อเช่นกัน
ฉันกล่าวว่า :
ถ้าเช่นนั้นก็เชิญไปชำละล้างและทำความสะอาดร่างกายของท่าน และกลับมาหาฉัน ฉันจะบอกสิ่งที่ฉันได้รู้มา
และเมื่อบิดามาถึง ฉันได้เสนออิสลามแก่ท่าน และท่านได้รับนับถือศาสนาอิสลามภายหลังจากนั้น ภรรยาของฉันได้มาหาฉัน
ฉันกล่าวเธอว่า :
จงไปให้ไกลจากฉัน ฉันไม่ใช่พวกของเธอ และเธอก็ไม่ใช่พวกของฉัน
ภรรยาของฉันกล่าวว่า :
ทำไมเล่าถึงทำเช่นนี้ ทั้งๆที่ฉันรักท่านยิ่งกว่าบิดามารดาเสียอีก!
ฉันกล่าวแก่เธอว่า :
อิสลามได้แยกระหว่างตัวฉันกับเธอออกเสียแล้ว ฉันรับนับถือศาสนาอิสลามและปฎิบัติตาม
คำเชิญชวนของท่านมุฮัมหมัด
เธอกล่าวแก่ฉันว่า :
ศาสนาของท่านก็คือศาสนาของฉัน
ฉันกล่าวแก่เธอว่า :
ถ้าเช่นนั้นก็จงไปชำระล้างทำความสะอาดร่างกายของเธอแล้วกลับมาหาฉัน ฉันจะบอกเธอ ถึงสิ่งที่ฉันได้รู้มา
และเมื่อภรรยามาถึง ฉันได้เสนออิสลามแก่เธอ และเธอได้เข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม
หลังจากนั้นฉันได้เชิญชวน "เด๊าซฺ" ซึ่งเป็นหมู่คณะของฉันให้เข้ารับอิสลาม แต่ทว่าพวกเขา ได้ปฎิเสธ นอกจากอบูฮุรอยเราะห์ ซึ่งเป็นคนหนึ่งในตระกูลเด๊าซฺ ที่ตอบรับและเข้ารับนับถือศาสนาอิสลามอย่างรวดเร็ว ฎุฟัยลฺกล่าวว่า ฉันและอบูฮุรอยเราะห์ได้มาหาท่านรอซูลที่มักกะห์
ท่านรอซูลกล่าวแก่ฉันว่า :
ท่านมีข่าวอะไรเกี่ยวกับ (เดาซฺ)
ฉันกล่าวว่า :
หัวใจของพวกเขาถูกปิดบังจากการเห็นความจริง และสิ่งชั่วช้าได้มีอำนาจเหนือพวกเขา
ท่านร่อซูลได้ลุกขึ้นไปอาบน้ำละหมาด และละหมาด และท่านได้ยกมือขอดุอาอฺ อบูฮุรอยเราะห์กล่าวว่า เมื่อฉันเห็นท่านร่อซูลทำเช่นนั้น ฉันจึงกล่าวว่าท่านรอซูลจะขอความพินาศให้ประสบแก่ "เด๊าซฺ" ซึ่งเป็นหมู่คณะของฉัน แต่ทว่าท่านรอซูล ขอดุอาอฺวิงวอนว่า :
ข้าแต่อัลเลาะห์ ขอพระองค์ทรงนำทางที่ถูกต้องให้แก่เด๊าซฺด้วยเถิด (ท่านกล่าวเช่นนี้สามครั้ง)
หลังจากท่านรอซูลเสร็จจากคำวิงวอน และท่านได้หันหน้ามายังฎุฟัยลฺ โดยกล่าวว่า :
จงกลับไปยังหมู่คณะของท่าน และเชิญชวนพวกเขาสู่อิสลามในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
ฎุฟัยลฺกล่าวว่า :
ฉันยังคงอยู่ในดินแดน "เด๊าซฺ" ทำหน้าที่เชิญชวนเขาเหล่านั้นสู่อิสลาม จนกระทั่งท่านรอซูล ได้อพยพจากมักกะห์ไปมะดีนะห์ และสงครามบัดรฺ อุฮุด และอัลคอนดั๊ก หรืออัลอะห์ซาบได้ผ่านไป ฉันได้มาหาท่านรอซูล พร้อมกับหมู่ชนชาวเด๊าซฺจำนวนแปดสิบครอบครัว ซึ่งได้เข้ารับนับถืออิสลาม ท่านรอซูลมีความปิติยินดีต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และได้แบ่งทรัพย์สินจากทรัพย์เชลยที่ท่านได้รับ จากสงครามบัดรฺให้แก่พวกเขา
พวกเราจึงกล่าวแก่ท่านว่า :
โอ้ท่านรอซูล โปรดให้พวกเรา (หมายถึงพวกที่เข้ารับนับถือศาสนาอิสลามจากเด๊าซฺ) อยู่เบื้องขวาของท่านในทุกๆสมรภูมิที่ท่านจะออกไป และโปรดให้เครื่องหมายของเราคือ คำว่า "มับรู้ร ที่ดี
ท่านฎุฟัยลฺกล่าวว่า :
ฉันยังคงอยู่กับท่านร่อซูลจนกระทั่ง อัลเลาะห์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ประทานการพิชิตมักกะห์ให้แก่ท่าน และฉันได้กล่าวแก่ท่านรอซูลว่า :
โปรดส่งฉันไปยัง "ซิลกัฟฟัยนฺ" ซึ่งเป็นรูปปั้นของ อัมรฺ บินหะมะมะห์ เพื่อทำลายมัน
แล้วท่านรอซูล ได้อนุญาตให้แก่ฉัน ฉันจึงมุ่งไปยังรูปปั้นดังกล่าว พร้อมหมู่คณะของฉันจำนวนหนึ่ง เมื่อพวกเราไปถึงและจะลงมือทำลายรูปปั้นนั้น บรรดาชาย หญิง และเด็กต่างมาเฝ้าดูการกระทำของเรา โดยคิดว่ารูปปั้นจะไม่ปล่อยให้เราทำลายมันเปล่าๆ นอกจากเราจะต้องได้รับภัยอันตรายจากรูปปั้นนั้นเสียก่อน
แต่ทว่าฎุฟัยลฺ ก็ทำลายรูปปั้นโดยการเผา และการกระทำของฎุฟัยลฺครั้งนี้เท่ากับเป็นการขจัดชิริกที่เหลืออยู่ให้หมดสิ้นไปจากหมู่ชน "เด๊าซฺ" และทำให้ผู้ที่ยังคงเหลืออยู่จากหมู่คณะของท่านได้รับนับถือศาสนาอิสลามทั้งหมด
โปรดติดตามตอนต่อไป
Click<<< ท่านอัฏฏุฟัยลฺ อิบนิ อัมรฺ อัดเด๊าซีย์ 1 ท่านอัฏฏุฟัยลฺ อิบนิ อัมรฺ อัดเด๊าซีย์ 3 >>>Click