ท่านอบูอัยยู๊บ อัลอันซอรีย์ 3
  จำนวนคนเข้าชม  3494

ท่านอบูอัยยู๊บ อัลอันซอรีย์ 3


          รุ่งเช้า อบูอัยยู๊บได้ไปหาท่านนบีที่บ้าน ท่านนบีจึงมอบทาสหญิงซึ่งเคยรับใช้ท่านอยู่ให้อบูอัยยู๊บและบอกว่า :
  
         ขอสั่งหน่อยนะว่าจงปฎิบัติต่อหญิงรับใช้ผู้นี้ด้วยดี เพราะความจริงเท่าที่นางรับใช้เรามา นางก็ทำดีมาตลอด

          ท่านอบูอัยยู๊บได้พาทาสหญิงผู้นั้นกลับมาบ้าน เมื่อภรรยาเห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามว่า :

          ทาสหญิงนี้เป็นของใครรึ?

          ท่านอบูอัยยู๊บตอบว่า :

          เป็นของเราซิ..ท่านร่อซูลให้เราแล้ว

          ภรรยากล่าวว่า :

          ผู้ให้ก็มีเกียรติ แถมสิ่งนี้ก็มีคุณค่าจริงๆ

          อบูอัยยู๊บกล่าวว่า :

          แต่ท่านรอซูลสั่งว่า  "ให้เราปฎิบัติต่อนางด้วยดีนะ"
 
          นางจึงถามว่า :

          แล้วเราจะทำอย่างไรดี จึงจะให้บรรลุตามคำสั่งเสียนั้นเล่า?

          อบูอัยยู๊บกล่าวว่า :

          มีทางเดียวเท่านั้นคือปล่อยให้เป็นอิสระ

          ภรรยาจึงพูดว่า :

          ถูกแล้วฉันก็เห็นด้วยเช่นนั้นเหมือนกัน

          ในที่สุดท่านอบูอัยยู๊บก็ปล่อยทาสหญิงผู้นั้นให้ได้รับอิสระ


          ที่เล่ามาทั้งหมดนี้เป็นชีวประวัติบางตอนของท่านอบูอัยยู๊บ อัลอันซอรีย์ ในยามที่บ้านเมืองอยู่ในความสงบสุข แต่ถ้าหากท่านหันกลับไปมองการดำรงชีวิตของท่านอีกด้านหนึ่งในภาวะสงคราม ท่านจะต้องแปลกใจจริงๆ เพราะตลอดชีวิตของท่านนั้นเป็นนักรบมาโดยตลอด จนกระทั่งกล่าวกันว่า ท่านไม่เคยพลาดการออกศึกสงครามพร้อมกับฝ่ายมุสลิมเลย นับตั้งแต่สมัยท่านนบีจนถึงสมัยท่านมุอาวิยะห์ นอกเสียจากในยามที่ท่านต้องปฎิบัติภาระกิจอย่างอื่นอยู่ก่อนแล้วเท่านั้น และในสงครามครั้งสุดท้ายก็คือขณะที่ท่านมุอาวิยะห์ได้เตรียมทัพเพื่อเปิดกรุง กิสตอนตินียะห์ หรือคอนสแตนติโนเปิล

          ในศึกครั้งนี้มีบุตรของท่านชื่อยะซีดเป็นแม่ทัพ เวลานั้นท่านอบูอัยยู๊บชราภาพมีอายุกว่าแปดสิบปีแล้ว แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเข้าร่วมกับกองทหาร ภายใต้ธงของท่านยะซีด และไม่เป็นอุปสรรคในการฝ่าคลื่นในท้องทะเลเพื่อไปทำสงครามในหนทางของอัลเลาะห์

          การสู้รบยังไม่ทันถึงขั้นแตกหัก อบูอัยยู๊บล้มป่วยเสียก่อน ซึ่งเป็นเหตุให้ท่านต้องพักรบ ท่านยะซีด ซึ่งเป็นแม่ทัพได้มาเยี่ยมท่านและกล่าวว่า :

          โอ้ท่านอบูอัยยู๊บ ถ้าหากว่าท่านมีความต้องการอันใดก็จงบอกมาเถิด

          อบูอัยยู๊บจึงกล่าวว่า :

          จงบอกสภาพของฉันแด่เหล่าทหารมุสลิมด้วย และบอกเขาเหล่านั้นด้วยว่า อบูอัยยู๊บสั่งเสียไว้ ให้บุกเข้าไปในดินแดนฝ่ายศัตรูให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จงแบกฉัน(หมายถึงอบูอัยยู๊บ) ไปด้วยและให้ฝังศพของฉันไว้ใต้พื้นดินของกองทหารมุสลิม ณ กำแพง เมืองกรุงคอนแสตนติโนเปิลด้วย

          เมื่อกล่าวจบท่านก็สิ้นใจ

          บรรดาทหารมุสลิมได้ตอบรับความประสงค์ของอบูอัยยู๊บแล้ว กองทัพเข้าบดขยี้ฝ่ายศัตรูครั้งแล้วครั้งเล่า จนสามารถบุกถึงกำแพงกรุงคอนแสตนติโนเปิลได้สำเร็จ โดยที่พวกเขาได้นำศพของอบูอัยยู๊บมาด้วย และขุดหลุมฝังไว้เป็นกุบุ้ร ณ ที่นั้น คล้ายเป็นสัญญาณบอกเหตุว่า มุสลิมจะต้องกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

          ขออัลเลาะห์ทรงเมตตา ท่านอบูอัยยู๊บ ท่านดื้อดึงไม่ยอมตาย นอกจากจะต้องตายบนหลังม้า ที่วิ่งฮ่อเข้าทำสงครามในหนทางของอัลเลาะห์ ทั้งที่ตัวเองมีอายุเกือบแปดสิบปี

วัสสลาม


  Click<<<   ท่านอบูอัยยู๊บ อัลอันซอรีย์ 2                          

จาก หนังสือประวัติซอฮาบะห์ 1

พิมพ์เผยแพร่โดย สายสัมพันธ์