ท่านอับดุลเลาะห์ อิบนิญะฮฺช์ 3
เมื่อความคับแค้นใจทวีมากขึ้น และเกิดความทุกข์อย่างสุดที่จะทนได้ก็มีข่าวดีมาถึงพวกเขา กล่าวคือ อัลเลาะห์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงพอพระทัยในการณ์ปฎิบัติของพวกเขาแล้วและบัดนี้พระองค์ ทรงประทานอายะห์กุรอานแก่ท่านนบีเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว พวกเขาดีใจเป็นที่สุด พี่น้องมุสลิมก็แสดงความปิติยินดี และอ่านอายะห์ที่อัลเลาะห์ทรงประทานมา เกี่ยวกับผลงานของท่าน อับดุลเลาะห์ บินญะฮฺชฺ ซึ่งมีความว่า
"พวกเขาจะถามเจ้าเกี่ยวกับเดือนที่ต้องห้าม ซึ่งการสู้รบในเดือนนั้น มุฮัมมัดจงกล่าวเถิดว่าการสู้รบในเดือนนั้นเป็นสิ่งใหญ่โต และเป็นการขัดขวางให้ออกจากทางของอัลเลาะห์ และการปฎิเสธศรัทธาต่อพระองค์ และการกีดกันชาวอัลมัสยิดฮะรอมออกไปนั้น เป็นสิ่งใหญ่โตยิ่งกว่า ณ ที่อัลเลาะห์ และการฟิตนะห์ -หมายถึงชิริก- นั้นใหญ่โตกว่าการฆ่า" (อัลบะกอเราะห์ 2 : 217)
เมื่ออายะห์ อัลกุรอานถูกประทานลงมาแล้ว ท่านรอซูล ก็สบายใจจึงเก็บทรัพย์สินที่ยึดมาได้ และยอมรับการไถ่ตัวเชลยทั้งสองคน ท่านรอซูล พอใจผลงานของท่านอับดุลเลาะห์ บินญะฮฺชฺ กับพวกเป็นอันมาก เพราะศึกครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับชีวิตฝ่ายมุสลิมและทรัพย์ที่ยึดได้ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในอิสลาม ผู้ที่ถูกฆ่าตายนั้นก็เป็นมุชริกคนแรกที่ถูกมุสลิมฆ่า และเชลยทั้งสองคนนั้นก็เป็นเชลยสองคนแรกที่ตกอยู่ในมือมุสลิม ธงก็เป็นธงผืนแรกที่ท่านรอซูลมอบให้กับมือของท่านผู้นำในการรบครั้งนั้นคือท่าน อับดุลเลาะห์ บินญะฮฺชฺ ซึ่งเป็นคนแรกที่ถูกเรียกว่า "อะมีรุลมุอฺมินีน"
ต่อมาเกิดสงครามบะดัร ท่าน อับดุลเลาะห์ บินญะฮฺชฺ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญมากในสงครามครั้งนี้สมกับ ความศรัทธาของท่าน
ต่อมาเกิดสงครามอุฮุด ในสงครามครั้งนี้มีเรื่องของท่าน อับดุลเลาะห์ บินญะฮฺชฺ กับเพื่อนคนหนึ่งชื่อท่านซะอฺดฺ บิน อบีวักก็อส ซึ่งเรื่องนี้ยากที่จะลืมได้ เราจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของท่าน ซะอฺดฺ บิน อบีวักก็อช
เล่าให้เราฟังซึ่งท่านได้เล่าว่า :
ในสงครามอุฮุดนั้น ท่านอับดุลเลาะห์ บินญะฮฺชฺ ได้พบฉันและถามว่า
"ท่านไม่ขอดุอาอฺต่ออัลเลาะห์หรือ?"
ฉันตอบว่า "ขอซิ"
เราทั้งสองจึงไปขอดุอาอฺกัน ณ ที่หนึ่ง ฉันเป็นผู้กล่าวดุอาอฺว่า
"โอ้พระผู้เป็นเจ้าของฉัน เมื่อฉันต้องเผชิญหน้ากับศัตรูก็ขอให้ฉันได้พบกับชายฉกรรจ์ที่มีฝีไม้ลายมือ พอๆกันและขอให้ฉันได้รับชัยชนะเหนือเขา เพื่อที่ฉันจะได้ฆ่าเขา"
ขณะที่ฉันกล่าวดุอาอฺนั้น ท่านอับดุลเลาะห์ บินญะฮฺชฺ ก็กล่าวอามีน ต่อจากนั้นท่านอับดุลเลาะห์ บินญฮฺชฺ ก็กล่าวดุอาอฺว่า :
โอ้อัลเลาะห์ โปรดให้ฉันพบศัตรูที่เป็นชายฉกรรจ์ที่มีฝีไม้ลายมือในเชิงรบ ฉันจะต่อสู้กับเขาเพื่อพระองค์และเขาก็จะต่อสู้กับฉัน และฆ่าฉันตายพร้อมทั้งตัดจมูกและใบหูของฉันด้วย เมื่อฉันพบพระองค์ในวันอาคีเราะฮฺ พระองค์จะทรงถามว่า จมูกกับหูของเจ้าถูกตัดนั้นเพื่อใคร และฉันจะตอบว่า เพื่ออัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์ และพระองค์จะทรงตรัสว่า เจ้าพูดถูกต้องแล้ว"
ซะอฺดฺ บินอะบี วักก็อส ได้กล่าวว่าคำวิงวอนของท่าน อับดุลเลาะห์ บินญะฮฺชฺ นั้นดีกว่าคำวิงวอนของฉัน เพราะฉันเห็นเขาตายในตอนเย็นวันนั้น เขาถูกฆ่าและถูกชำแหละศพโดยจมูกและหูของเขาถูกแขวนไว้บนต้นไม้ต้นหนึ่ง
อัลเลาะห์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงตอบรับคำวิงวอนของท่าน อับดุลเลาะห์ บินญะฮฺชฺ และพระองค์ทรงเทิดเกียรติเขาโดยให้ตายชะฮีด เช่นเดียวกับที่พระองค์เทิดเกียรติน้าชายของเขาคือ ซัยยิด ชุฮะดาอฺ ท่าน ฮัมซะห์ บินอับดุลมุฎฎอลิบ
ดังนั้นท่านรอซูลผู้ประเสริฐฝังเขาทั้งสองไว้ในหลุมเดียวกัน หยาดน้ำตาอันบริสุทธิ์ของท่านต้องหยดลงบนเนินดินหลุมศพซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของการได้รับ ซะฮีด ตายในสนามรบ
ขออัลเลาะห์ทรงพอพระทัยท่าน ฮัมซะห์ และท่าน อับดุลเลาะหฺ บินญะฮฺชฺ ด้วยเทอญ
วัสสลาม
Click<<< ท่านอับดุลเลาะห์ อิบนิญะฮฺช์ 2
จาก หนังสือประวัติซอฮาบะห์ 1
พิมพ์เผยแพร่โดย สายสัมพันธ์