การปฏิบัติของท่านรอซูล ต่อครอบครัว
การเสแสร้ง แกล้งทำความดีนั้นสามารถที่จะทำได้เป็นบางเวลาเท่านั้น และเป็นการยากลำบากมากที่จะทำดีกับผู้อื่นได้ตลอดเวลา ดังนั้นมารยาทของคนๆหนึ่งจะปรากฏขึ้นอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อได้อยู่ภายในบ้านของเขาเองพร้อมกับครอบครัว
แน่นอนท่านเราะซูลลุลลอฮ์ นั้นเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดในการอยู่ร่วมกับครอบครัวด้วยความดี ท่านต้องดูแลภรรยา 11 คน ทาสและทาสี และลูกสาวอีก 4 คน ซึ่งเธอเหล่านั้นก็มีลูกอีกหลายคน ท่านปฏิบัติกับทุกคนในฐานะสามีที่ใจบุญ เป็นพ่อที่เมตตา และเป็นนายที่ให้ความสงสาร
ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ กล่าวว่า :
" خَيْرُكُمْ خَيْرُكُمْ ِلأهْلِهِ وَأَنَا خَيْرُكُمْ ِلأَهْلِي"
ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่พวกท่านก็คือผู้ที่ดีที่สุดกับครอบครัวของเขา และฉันก็ดีที่สุดในหมู่พวกท่านที่ทำดีกับครอบครัวของฉัน (*1*)
ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ กล่าวไว้อีกว่า :
" خِيَارُكُمْ خِيَارُكُمْ لِنِسَائِهِمْ "
ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่พวกท่าน คือผู้ที่ทำดีที่สุดกับภรรยาของเขา(*2*)
ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ได้ปฏิบัติกับภรรยาด้วยความนุ่มนวล มีขันติ อดทน และให้เกียรติ แม้ว่าจะมีภรรยาหลายคน และเธอเหล่านั้นต่างมีการหึงหวงต่อกันซึ่งเป็นธรรมชาติของสตรี แต่ท่านได้ปฏิบัติต่อภรรยาด้วยความเป็นจริง ครั้งหนึ่งขณะที่พักอยู่กับท่านหญิงอาอีชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา พระนางซอฟียะห์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ได้ส่งอาหารมาให้จานหนึ่ง ท่านหญิงอาอีชะฮ์มีความรู้สึกโกรธ นางได้เอามือสะบัดไปที่ชามอาหารนั้น ทำให้ชามแตก อาหารหล่นกระจัดกระจาย ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ได้อุทานออกมาว่า :
ทำไมเพราะเหตุใดหรือ?
ท่านลุกขึ้นไปหยิบชามแล้วเก็บอาหารมาใส่ชาม แล้วจึงบอกกับผู้ที่อยู่ที่นั่นว่า :
ท่านทั้งหลายจงกินอาหารนี้เถิด
แล้วบอกกับคนรับใช้ว่าอย่าเพิ่งออกไป เมื่อพวกเขากินเสร็จท่านได้นำชามใหม่จากท่านหญิงอาอีชะฮ์ ไปมอบให้กับคนรับใช้แล้วพูดว่า :
จงเอาชามนี้ไปคืนให้แก่เจ้าของชาม (*3*)
ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ แต่งงานกับท่านหญิงอาอีชะฮ์ ขณะที่นางยังเด็ก มีอายุเพียง 9 ปี ท่านจึงเข้าใจถึงความต้องการของเด็ก โดยที่ท่านอนุญาติให้นางไปเล่นกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ครั้นเมื่อท่านเราะซูลลุลลอฮ์ เดินไปหาเด็กสาวเหล่านั้น พวกเธอจะเขินอายแล้ววิ่งหนีไป ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ก็พาเธอไปเล่นกับเพื่อนใหม่อีก(*4*) และเมื่อท่านเดินเข้าไปหาเด็กสาวเหล่านั้น ท่านจะเอาผ้าปิดตัวเอง โดยท่านเกรงว่าเด็กสาวเหล่านั้นจะเขินอาย และไม่กล้าที่จะเล่นอีก(*5*)
ความเรียบง่ายและความอ่อนโยนต่อภรรยา ไม่เคยถูกปิดบังต่อบรรดาศอฮาบะฮ์เลย ครั้งหนึ่งท่านเดินทางไปกับสาวกและภรรยาของท่าน คือท่านหญิงซอฟียะห์ได้เดินทางไปด้วย ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ได้ย่อเข่าลงโดยให้เท้าของนางได้เหยียบบนเข่าท่าน เพื่อเธอจะขึ้นขี่บนอูฐได้(*6*) และการเดินทางอีกครั้งหนึ่งท่านได้พูดกับบรรดาสาวกว่า :
พวกท่านทั้งหลายจงล่วงหน้าไปก่อนเถิด แล้วเราจะตามไปทีหลังพร้อมกับท่านหญิงอาอีชะฮ์
ซึ่งท่านได้วิ่งแข่งกับนางและนางก็ชนะ ครั้นต่อมาเมื่อนางมีน้ำหนักตัวมากขึ้น ท่านได้วิ่งแข่งกับนางอีกคราวนี้ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ชนะนาง แล้วท่านก็พูดว่า :
การแข่งขันก็อย่างนี้แหละ(*7*)
ท่านเป็นคนที่อ่อนโยนเมื่ออยู่ในบ้าน ท่านจะช่วยภรรยาของท่านทำงานบ้าน(*8*) บางครั้งท่านจะเย็บเสื้อ เย็บรองเท้าด้วยตัวของท่านเอง ท่านรีดนมแพะแล้วบริการตัวเอง(*9*)
ท่านปฏิบัติกับลูกๆ และเด็กที่อยู่รอบข้างโดยเป็นพ่อที่เมตตาปรานี เป็นผู้อบรมด้วยความสุขุม พยายามทำให้พวกเขามีความปิติยินดี และจะยิ้มแย้มกับลูกและเด็กๆเสมอ ท่านจะอุ้มและจูบเด็กๆเหล่านั้น
ท่านอบูฮุรอยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้รายงานว่า :
แท้จริงท่านเราะซูลลุลลอฮ์ นั้นได้จับมือฮะซันหรือฮูเซ็น และเท้าของฮะซันหรือฮูเซ็นอยู่บนเท้าของท่าน แล้วท่านเราะซูล ใช้ให้เดินขึ้นมาจนกระทั่งถึงบนหน้าอกของท่าน แล้วก็ใช้ให้เปิดปาก แล้วก็จูบ(*10*) ท่านเคยอุ้มอุมามะห์ ลูกสาวของซัยนับ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา บุตรสาวของท่าน ขณะละหมาด ครั้นเมื่อท่านรูกั๊วะท่านจะวางลงและเมื่อท่านลุกขึ้นท่านก็อุ้มเธอขึ้นมาใหม่(*11*)
ครั้งหนึ่งขณะท่านกำลังนำละหมาดบรรดาศอฮาบะห์อยู่ ฮาซัน บิน อาลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่นขึ้นขี่บนคอในขณะที่ท่านสุญูด ท่านจึงสุญูดเป็นเวลายาวนาน มีผู้ถามท่าน ท่านได้ตอบว่า :
แท้จริงลูกของฉันกำลังขี่ฉันอยู่ ฉันไม่อยากที่จะรีบเร่งจนกว่าเขาจะเลิกแล้วลงไปเอง(*12*)
การปฏิบัติเช่นนี้ใช่แต่เฉพาะลูกหรือหลานเท่านั้น กับเด็กอื่นทั่วไปท่านได้หยุดหยอกล้อกับเด็กๆ ท่านจะลูบศีรษะและใบหน้า พูดคุยกับเด็กๆ เสมอ(*13*)
เช่นเดียวกันท่านปฏิบัติกับคนรับใช้หรือทาสด้วยความอ่อนโยน
ท่าน อนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า :
ฉันเคยรับใช้ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ เป็นเวลา 10 ปี ท่านไม่เคยพูดกับฉันว่า อุฟ เลย ท่านไม่เคยพูดกับฉันเลยในสิ่งที่ฉันได้ทำมันไปว่า ทำไมจึงทำเช่นนี้? หรือสิ่งใดที่ฉันไม่ทำท่านก็ไม่เคยพูดเลยว่า ทำไมถึงไม่ทำมันหละ?(*14*) และท่านเคยอุ้มลูกของทาส คือ อุซามะห์ บิน เซด วางไว้บนตัก และเอาฮะซัน บินอะลี วางไว้บนตักอีกข้างหนึ่ง แล้วท่านก็กอดเด็กทั้งสอง แล้วท่านก็พูดว่า : โอ้อัลลอฮ์ ขอพระองค์ทรงเมตตาเขาทั้งสอง เพราะแท้จริงฉันรักเมตตาเขาทั้งสอง(*15*)
ขณะที่ท่านทราบว่า ท่านอะบาซัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้พูดตำหนิคนใช้ของเขาถึงแม่ของเขา ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ จึงพูดกับเขาว่า :
ในตัวของท่านนั้นยัง ญาฮิลียะฮ์อยู่
แล้วท่านก็พูดต่อว่า :
แท้จริงพวกเขาเหล่านั้นเป็นพี่น้องของพวกท่าน อัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลของพวกท่าน ดังนั้นผู้ใดที่อัลลอฮ์ได้ให้พี่น้องของเขาอยู่ภายใต้การดูแลแล้วละก็ จงให้อาหารเขาเหมือนอย่างที่ตัวเองกิน จงให้ดื่มเหมือนอย่างตัวเองดื่ม จงให้เขาได้สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนอย่างที่ตัวเองสวมใส่ อย่าได้บังคับใช้งานเขาเกินกำลัง ดังนั้นถ้าหากใครที่บังคับใช้เขาให้ทำงานเกินกำลังแล้วละก็ ขอให้เขาได้ถูกสาปแช่ง(*16*)
ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ นั้นให้ความสำคัญอย่างมากต่อบรรดาทาสโดยได้สั่งเสียให้ทำดีต่อทาสในขณะที่ท่านใกล้เสียชีวิตอยู่บนที่นอน(*17*)
ดร.อัดุลลอฮฺ อิบนุ อับดิรเราะฮ์มาน อัลค็อรอาน
...ประเด็นต่างๆในการศึกษาชีวประวัตินะบีมุฮัมมัด
- สุนันอัตติรมิซี 5/709 ฮฺ/3895. เป็นฮะดิษที่ซอเฮี๊ยและอัลบานีได้ตัศเอี๊ยด้วย
- สุนันอัตติรมิซี 3/466-ฮฺ/1162 เป็นฮะดิษฮะซันซอเอี๊ย. มุสนัดอะฮฺมัด 2/472ฮฺ/10110
- ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลมะฏอลิม บทที่ 34 ไม่ได้กล่าวชื่อภรรยาท่านนบี สุนันอัตติรมิซี 3/640 ฮฺ /1359 มีกล่าวชื่อ อาอิซะฮิและศอฟิยะฮฺ สุนันอะบีดาวูด 3/297 ฮฺ/3567
- ดู ซออีอุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอะดับ บทที่ 81 มุสนัดอิม่ามอะฮฺมัด 6/166
- อัตต่อบะกอต อัลกุบรอ ลิอิบนิ ซะอฺ 7/65 ท่านอักรอม อัลอัมรี กล่างว่าเป็นสายรายที่ซอเฮี๊ย อัซซีร่อตุ้ลนะบะวีญะฮฺ อัซซ่อฮีอะฮฺ 2/649
- ซออีอุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลมะฆอซี บท สงครามคอยบัร 38
- สุนันอะบีดาวูด 3/29 ฮฺ /2578 อัสซุนะนุ้ลกุบรอ ลิ้ลบัยฮะกี 5/304ฮฺ/894
- ซออีอุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอะดับ บทที่ 40
- ฟัตหุ้ลบารี 10/461 อิม่ามอะฮฺมัดเป็นผู้คัดลอกฮะดิษ และอิบนิซะอฺที่ตัซเอี๊ยและอิบนิฮิบาน
- รายงานโดยอิม่ามบุคคอรีในเรื่องมารยาท และท่านต็อบรอนี ดู มุฮัมัดนูรสุเวซ การเลี้ยงดูท่านนะบีในวัยเด็ก 182
- ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอะดับ บท การมีความเมตตาต่อเด็ก 18
- มุสนัดอะฮฺมัด 6/91 ท่านอิรอกีกล่าวไว้ใน อัลเอี๊ยยาอฺ 2/218 รายงานโดย อัลนะซาอี และอัลฮากิม เป็นฮะดิษทีซอเฮี๊ย ตามกฎเกณณ์ของทั้งสอง
- ถือว่าพอเพียงต่อเหตุการณ์ของท่านนะบีในเรื่องนี้ ดู มุฮัมัดนูรสุเวซ การเลี้ยงดูท่านนะบีในวัยเด็ก 179 และต่อจากนี้
- ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอาดับ บท มารยาทที่ดีงาม 39 และรายงานโดย มุสลิม และติรมิซี
- ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอาดับ บทที่ 22
- ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอาดับ บทที่ 44
- มุสนัดอะฮฺมัด3/117 สุนันอะบีดาวูด 5/359 กิตาบ อะดับ ฮฺ/3156 เพื่อหยุดพูดถึงการปฏิบัติต่อผู้รับใช้และบรรดากษัติยร์ของนบี ดู มะฮฺดีริสกุ้ลลอฮิ อัซซีร่อตุ้ลนะบะวีญะฮฺ 723-724