การปฏิบัติของท่านรอซูลต่อครอบครัว
  จำนวนคนเข้าชม  13566

การปฏิบัติของท่านรอซูล ต่อครอบครัว

          การเสแสร้ง แกล้งทำความดีนั้นสามารถที่จะทำได้เป็นบางเวลาเท่านั้น และเป็นการยากลำบากมากที่จะทำดีกับผู้อื่นได้ตลอดเวลา ดังนั้นมารยาทของคนๆหนึ่งจะปรากฏขึ้นอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อได้อยู่ภายในบ้านของเขาเองพร้อมกับครอบครัว

          แน่นอนท่านเราะซูลลุลลอฮ์ นั้นเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดในการอยู่ร่วมกับครอบครัวด้วยความดี ท่านต้องดูแลภรรยา 11 คน ทาสและทาสี และลูกสาวอีก 4 คน ซึ่งเธอเหล่านั้นก็มีลูกอีกหลายคน ท่านปฏิบัติกับทุกคนในฐานะสามีที่ใจบุญ เป็นพ่อที่เมตตา และเป็นนายที่ให้ความสงสาร
      
ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ กล่าวว่า :

          " خَيْرُكُمْ خَيْرُكُمْ ِلأهْلِهِ وَأَنَا خَيْرُكُمْ ِلأَهْلِي"

          ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่พวกท่านก็คือผู้ที่ดีที่สุดกับครอบครัวของเขา และฉันก็ดีที่สุดในหมู่พวกท่านที่ทำดีกับครอบครัวของฉัน (*1*)

ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ กล่าวไว้อีกว่า :
         
          " خِيَارُكُمْ خِيَارُكُمْ لِنِسَائِهِمْ "
          
          ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่พวกท่าน คือผู้ที่ทำดีที่สุดกับภรรยาของเขา(*2*)

          ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ได้ปฏิบัติกับภรรยาด้วยความนุ่มนวล มีขันติ อดทน และให้เกียรติ แม้ว่าจะมีภรรยาหลายคน และเธอเหล่านั้นต่างมีการหึงหวงต่อกันซึ่งเป็นธรรมชาติของสตรี แต่ท่านได้ปฏิบัติต่อภรรยาด้วยความเป็นจริง ครั้งหนึ่งขณะที่พักอยู่กับท่านหญิงอาอีชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา พระนางซอฟียะห์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ได้ส่งอาหารมาให้จานหนึ่ง ท่านหญิงอาอีชะฮ์มีความรู้สึกโกรธ นางได้เอามือสะบัดไปที่ชามอาหารนั้น ทำให้ชามแตก อาหารหล่นกระจัดกระจาย ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ได้อุทานออกมาว่า :

          ทำไมเพราะเหตุใดหรือ? 

ท่านลุกขึ้นไปหยิบชามแล้วเก็บอาหารมาใส่ชาม แล้วจึงบอกกับผู้ที่อยู่ที่นั่นว่า :

          ท่านทั้งหลายจงกินอาหารนี้เถิด

          แล้วบอกกับคนรับใช้ว่าอย่าเพิ่งออกไป เมื่อพวกเขากินเสร็จท่านได้นำชามใหม่จากท่านหญิงอาอีชะฮ์ ไปมอบให้กับคนรับใช้แล้วพูดว่า :

          จงเอาชามนี้ไปคืนให้แก่เจ้าของชาม (*3*)

           ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ แต่งงานกับท่านหญิงอาอีชะฮ์ ขณะที่นางยังเด็ก มีอายุเพียง 9 ปี ท่านจึงเข้าใจถึงความต้องการของเด็ก โดยที่ท่านอนุญาติให้นางไปเล่นกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ครั้นเมื่อท่านเราะซูลลุลลอฮ์ เดินไปหาเด็กสาวเหล่านั้น พวกเธอจะเขินอายแล้ววิ่งหนีไป ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ก็พาเธอไปเล่นกับเพื่อนใหม่อีก(*4*) และเมื่อท่านเดินเข้าไปหาเด็กสาวเหล่านั้น ท่านจะเอาผ้าปิดตัวเอง โดยท่านเกรงว่าเด็กสาวเหล่านั้นจะเขินอาย และไม่กล้าที่จะเล่นอีก(*5*)

          ความเรียบง่ายและความอ่อนโยนต่อภรรยา ไม่เคยถูกปิดบังต่อบรรดาศอฮาบะฮ์เลย ครั้งหนึ่งท่านเดินทางไปกับสาวกและภรรยาของท่าน คือท่านหญิงซอฟียะห์ได้เดินทางไปด้วย ท่านเราะซูลลุลลอฮ์  ได้ย่อเข่าลงโดยให้เท้าของนางได้เหยียบบนเข่าท่าน เพื่อเธอจะขึ้นขี่บนอูฐได้(*6*)  และการเดินทางอีกครั้งหนึ่งท่านได้พูดกับบรรดาสาวกว่า :

          พวกท่านทั้งหลายจงล่วงหน้าไปก่อนเถิด แล้วเราจะตามไปทีหลังพร้อมกับท่านหญิงอาอีชะฮ์

          ซึ่งท่านได้วิ่งแข่งกับนางและนางก็ชนะ ครั้นต่อมาเมื่อนางมีน้ำหนักตัวมากขึ้น ท่านได้วิ่งแข่งกับนางอีกคราวนี้ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ชนะนาง แล้วท่านก็พูดว่า :

          การแข่งขันก็อย่างนี้แหละ(*7*)

           ท่านเป็นคนที่อ่อนโยนเมื่ออยู่ในบ้าน ท่านจะช่วยภรรยาของท่านทำงานบ้าน(*8*)  บางครั้งท่านจะเย็บเสื้อ เย็บรองเท้าด้วยตัวของท่านเอง ท่านรีดนมแพะแล้วบริการตัวเอง(*9*)

          ท่านปฏิบัติกับลูกๆ และเด็กที่อยู่รอบข้างโดยเป็นพ่อที่เมตตาปรานี เป็นผู้อบรมด้วยความสุขุม พยายามทำให้พวกเขามีความปิติยินดี และจะยิ้มแย้มกับลูกและเด็กๆเสมอ ท่านจะอุ้มและจูบเด็กๆเหล่านั้น

ท่านอบูฮุรอยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ  ได้รายงานว่า :

          แท้จริงท่านเราะซูลลุลลอฮ์ นั้นได้จับมือฮะซันหรือฮูเซ็น และเท้าของฮะซันหรือฮูเซ็นอยู่บนเท้าของท่าน แล้วท่านเราะซูล ใช้ให้เดินขึ้นมาจนกระทั่งถึงบนหน้าอกของท่าน แล้วก็ใช้ให้เปิดปาก แล้วก็จูบ(*10*)  ท่านเคยอุ้มอุมามะห์ ลูกสาวของซัยนับ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา บุตรสาวของท่าน ขณะละหมาด ครั้นเมื่อท่านรูกั๊วะท่านจะวางลงและเมื่อท่านลุกขึ้นท่านก็อุ้มเธอขึ้นมาใหม่(*11*) 

          ครั้งหนึ่งขณะท่านกำลังนำละหมาดบรรดาศอฮาบะห์อยู่ ฮาซัน บิน อาลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่นขึ้นขี่บนคอในขณะที่ท่านสุญูด ท่านจึงสุญูดเป็นเวลายาวนาน มีผู้ถามท่าน ท่านได้ตอบว่า :
 
          “แท้จริงลูกของฉันกำลังขี่ฉันอยู่ ฉันไม่อยากที่จะรีบเร่งจนกว่าเขาจะเลิกแล้วลงไปเอง”(*12*)   
 
          การปฏิบัติเช่นนี้ใช่แต่เฉพาะลูกหรือหลานเท่านั้น กับเด็กอื่นทั่วไปท่านได้หยุดหยอกล้อกับเด็กๆ ท่านจะลูบศีรษะและใบหน้า พูดคุยกับเด็กๆ เสมอ(*13*) 

           เช่นเดียวกันท่านปฏิบัติกับคนรับใช้หรือทาสด้วยความอ่อนโยน

ท่าน อนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า : 

          ฉันเคยรับใช้ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ เป็นเวลา 10 ปี ท่านไม่เคยพูดกับฉันว่า “อุฟ” เลย ท่านไม่เคยพูดกับฉันเลยในสิ่งที่ฉันได้ทำมันไปว่า ทำไมจึงทำเช่นนี้? หรือสิ่งใดที่ฉันไม่ทำท่านก็ไม่เคยพูดเลยว่า ทำไมถึงไม่ทำมันหละ?(*14*)  และท่านเคยอุ้มลูกของทาส คือ อุซามะห์ บิน เซด วางไว้บนตัก และเอาฮะซัน บินอะลี วางไว้บนตักอีกข้างหนึ่ง แล้วท่านก็กอดเด็กทั้งสอง แล้วท่านก็พูดว่า : โอ้อัลลอฮ์ ขอพระองค์ทรงเมตตาเขาทั้งสอง เพราะแท้จริงฉันรักเมตตาเขาทั้งสอง(*15*) 
 
          ขณะที่ท่านทราบว่า ท่านอะบาซัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้พูดตำหนิคนใช้ของเขาถึงแม่ของเขา ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ จึงพูดกับเขาว่า :

          ในตัวของท่านนั้นยัง ญาฮิลียะฮ์อยู่

แล้วท่านก็พูดต่อว่า :

          แท้จริงพวกเขาเหล่านั้นเป็นพี่น้องของพวกท่าน อัลลอฮ์ทรงให้พวกเขาอยู่ภายใต้การดูแลของพวกท่าน ดังนั้นผู้ใดที่อัลลอฮ์ได้ให้พี่น้องของเขาอยู่ภายใต้การดูแลแล้วละก็ จงให้อาหารเขาเหมือนอย่างที่ตัวเองกิน จงให้ดื่มเหมือนอย่างตัวเองดื่ม จงให้เขาได้สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนอย่างที่ตัวเองสวมใส่ อย่าได้บังคับใช้งานเขาเกินกำลัง ดังนั้นถ้าหากใครที่บังคับใช้เขาให้ทำงานเกินกำลังแล้วละก็ ขอให้เขาได้ถูกสาปแช่ง(*16*) 
  
          ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ นั้นให้ความสำคัญอย่างมากต่อบรรดาทาสโดยได้สั่งเสียให้ทำดีต่อทาสในขณะที่ท่านใกล้เสียชีวิตอยู่บนที่นอน(*17*)

 

ดร.อัดุลลอฮฺ  อิบนุ อับดิรเราะฮ์มาน อัลค็อรอาน

 ...ประเด็นต่างๆในการศึกษาชีวประวัตินะบีมุฮัมมัด


  1. สุนันอัตติรมิซี 5/709 ฮฺ/3895. เป็นฮะดิษที่ซอเฮี๊ยและอัลบานีได้ตัศเอี๊ยด้วย
  2. สุนันอัตติรมิซี 3/466-ฮฺ/1162 เป็นฮะดิษฮะซันซอเอี๊ย. มุสนัดอะฮฺมัด 2/472ฮฺ/10110
  3. ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลมะฏอลิม บทที่ 34 ไม่ได้กล่าวชื่อภรรยาท่านนบี สุนันอัตติรมิซี 3/640 ฮฺ /1359 มีกล่าวชื่อ อาอิซะฮิและศอฟิยะฮฺ สุนันอะบีดาวูด 3/297 ฮฺ/3567
  4. ดู ซออีอุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอะดับ บทที่ 81 มุสนัดอิม่ามอะฮฺมัด 6/166
  5. อัตต่อบะกอต อัลกุบรอ ลิอิบนิ ซะอฺ 7/65 ท่านอักรอม อัลอัมรี กล่างว่าเป็นสายรายที่ซอเฮี๊ย อัซซีร่อตุ้ลนะบะวีญะฮฺ อัซซ่อฮีอะฮฺ 2/649
  6. ซออีอุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลมะฆอซี บท สงครามคอยบัร 38 
  7. สุนันอะบีดาวูด 3/29 ฮฺ /2578 อัสซุนะนุ้ลกุบรอ ลิ้ลบัยฮะกี 5/304ฮฺ/894
  8. ซออีอุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอะดับ บทที่ 40
  9. ฟัตหุ้ลบารี 10/461 อิม่ามอะฮฺมัดเป็นผู้คัดลอกฮะดิษ และอิบนิซะอฺที่ตัซเอี๊ยและอิบนิฮิบาน
  10. รายงานโดยอิม่ามบุคคอรีในเรื่องมารยาท และท่านต็อบรอนี ดู มุฮัมัดนูรสุเวซ การเลี้ยงดูท่านนะบีในวัยเด็ก 182
  11. ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอะดับ บท การมีความเมตตาต่อเด็ก 18
  12. มุสนัดอะฮฺมัด 6/91 ท่านอิรอกีกล่าวไว้ใน อัลเอี๊ยยาอฺ 2/218 รายงานโดย อัลนะซาอี และอัลฮากิม เป็นฮะดิษทีซอเฮี๊ย ตามกฎเกณณ์ของทั้งสอง
  13. ถือว่าพอเพียงต่อเหตุการณ์ของท่านนะบีในเรื่องนี้ ดู มุฮัมัดนูรสุเวซ การเลี้ยงดูท่านนะบีในวัยเด็ก 179 และต่อจากนี้
  14. ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอาดับ บท มารยาทที่ดีงาม 39 และรายงานโดย มุสลิม และติรมิซี
  15. ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอาดับ บทที่ 22
  16. ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลอาดับ บทที่ 44
  17. มุสนัดอะฮฺมัด3/117 สุนันอะบีดาวูด 5/359 กิตาบ อะดับ ฮฺ/3156 เพื่อหยุดพูดถึงการปฏิบัติต่อผู้รับใช้และบรรดากษัติยร์ของนบี ดู มะฮฺดีริสกุ้ลลอฮิ อัซซีร่อตุ้ลนะบะวีญะฮฺ 723-724