เหตุการณ์ช่วงสุดท้ายของท่านเราะซูล
บรรดาตัวแทนเข้าพบท่านเราะซูล
หลังจากได้เปิดเมืองมักกะฮ์ การต่อต้านจากชาวกุเรชสิ้นสุดลง พวกเขาได้พากันเข้ารับอิสลาม และหลังจากปราบปรามเผ่าของ ฮาวาซิน ในสมรภูมิฮุนัย อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ในการเผยแพร่อิสลามในคาบสมุทรอาหรับ และชนเผ่าต่างๆ ก็หมดไป ส่วนเผ่าอื่นๆ คอยดูทีท่าการขัดแย้งระหว่างมุฮัมมัดกับชาวกุเรช ครั้นเมื่อการต่อต้านหมดไป ชาวกุเรชเข้ารับอิสลาม เผ่าที่เหลือจึงเข้ารับอิสลามเช่นกัน (*1*)
อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ทรงประทานซูเราะฮ์อันนัศร์ โดยที่พระองค์ทรงตรัสว่า :
เมื่อการช่วยเหลือของอัลลอฮ์ได้มาถึงพร้อมกับการพิชิต (เมืองมักกะฮ์)
เจ้าจะเห็นบรรดาผู้เข้ารับอิสลามของอัลลอฮ์ ระลอกแล้วระลอกเล่า
ดังนั้นเจ้าจงสดุดี จงสรรเสริญและจงขออภัยโทษต่อพระผู้อภิบาลของเจ้าเถิด เพราะพระองค์ทรงตอบรับผู้สำนึกผิดกลับตัวเสมอ
( อันนัศร์ 110 : 1-3)
ในปี ฮ.ศ.ที่ 9 บรรดาตัวแทนจากคาบสมุทรอาหรับ ได้หลั่งไหลเข้ามาเมืองมะดีนะฮ์ จนกระทั่งถูกขนานนามว่า อามุ้ลวุฟูด(*2*) กล่าวกันว่าตัวแทนเหล่านั้นมีมากถึง 70 100 คน(*3*) ซึ่งเป็นตัวแทนจากเผ่าต่างๆ ตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศใต้ ตะวันออกถึงตะวันตก(*4*) ชาวมะดีนะฮ์มีความกระตือรือร้นในการต้อนรับบรรดาตัวแทนที่มาเยือน ซึ่งจำนวนแต่ละกลุ่มไม่เท่ากัน บางกลุ่มมี 9-10 คน บางกลุ่มมีผู้ชายถึง 400คน(*5*) และท่านเราะซูล ได้ให้ความสำคัญกับบรรดาตัวแทนเหล่านั้นเป็นอย่างดี ซึ่งเห็นได้จากปรากฏการณ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ ;
ท่านเราะซูล ได้แต่งตั้งท่านอบูบักร อัซซิดดีก เป็นผู้นำบรรดามุสลิมีนไปทำฮัจญ์ในปีนั้น เพราะท่านต้องต้อนรับแขกที่มาเยือนตลอดปี(*6*) การต้อนรับตัวแทนด้วยความดีให้เกียรติและให้ที่พักที่ปลอดภัย โดยบางท่านให้พำนักในมัสยิดและบางส่วนได้พักในบ้านของบรรดาซอฮาบะฮ์ ท่านเราะซูล ได้รับฟังคำปราศรัยและรับทราบความรู้สึกของพวกเขาและตอบปัญหาในสิ่งที่สงสัย ซึ่งก่อให้เกิดความประทับใจเป็นอย่างมากเมื่อบรรดาตัวแทนเดินทางกลับไปยังบ้านเกิด ท่านเราะซูล ได้ให้ซอฮาบะฮ์ บางท่านติดตามไปด้วย ทั้งนี้เพื่อไปสอน อัลกุรอานและคำสอนของศาสนาให้แก่ชนเผ่าเหล่านั้น และยังแต่งตั้งผู้นำในการตัดสินให้แก่ทุกเผ่าด้วย
เหตุนี้ คาบสมุทรอาหรับในยุคแรกๆนั้น ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และมีเป้าหมายและหัวใจเดียวกันเพื่ออิสลาม ด้วยการทำอิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺซุบฮานะฮูวะตะอาลา เพียงองค์เดียวเท่านั้น
ฮัจญ์อำลา
ในปี ฮ.ศ. ที่ 10 ท่านเราะซูล ตั้งใจที่จะเดินทางไปทำฮัจญ์ ท่านจึงประกาศให้บรรดาซอฮาบะฮ์และบุคคลทั่วไปได้ทราบ เมื่อประชาชนทราบข่าวจึงเตรียมตัวเพื่อที่จะไปทำฮัจญ์ร่วมกับท่านอย่างมากมาย บางคนเดินทางมาพร้อมกับท่านเราะซูล ทางคนมาร่วมในระหว่างทาง บางคนมารวมที่มักกะฮ์ จำนวนผู้มาทำฮัจญ์นั้นมีมากมาย จนไม่สามารถที่จะให้ทุกคนได้ยินเสียงของท่านได้ จึงต้องใช้ มุบัลลิค (ผู้ประกาศ) เพื่อที่จะให้ได้ยินในสิ่งที่ท่านพูด กล่าวกันว่ามีผู้คนจำนวนมากถึง 4 หมื่นคน(*7*)
สาเหตุที่เรียกการทำฮัจญ์ครั้งนี้ว่าเป็น ฮัจญ์อำลา เพราะท่านเราะซูล ได้อำลาซอฮาบะฮ์ของท่าน
ท่านได้กล่าวว่า :
หวังว่าฉันคงไม่ได้ทำฮัจญ์หลังจากปีนี้
เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าฮัจญ์แห่งการเผยแพร่ เพราะท่านเราะซูล ได้บอกถึงฮุก่ม(ข้อบัญญัติ)ของการทำฮัจญ์ มีคำสั่งเสียต่างๆมากมายและยังใช้ให้ทุกคนเผยแพร่คำพูดของท่านในสิ่งที่ได้ยินมา(*8*)
คำสั่งเสียของท่านเราะซูล
ท่านเราะซูล ได้ทำการปราศรัยขณะทำฮัจญ์อำลาหลายครั้งด้วยกัน บางครั้งท่านปราศรัยระหว่างทาง บางครั้งใกล้เมืองมักกะฮ์ ซึ่งคำสั่งเสียต่างๆนั้น ได้ให้สาระสำคัญดังต่อไปนี้
แจ้งรายละเอียดในการทำพิธีฮัจญ์ ห้ามละเมิดสิทธิของผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นชีวิต ทรัพย์สินและเกียรติยศ เน้นถึงภราดรภาพระหว่างมุสลิม และแจ้งให้ทราบถึงสิทธิของกันและกัน ให้ยึดมั่นในคัมภีร์ของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และแบบอย่างของท่านเราะซูล และห้ามโกหกต่อท่านเราะซูล ระวังการแตกแยกและการทะเลาะวิวาทระหว่างมุสลิมด้วยกัน และให้ระวังในการที่จะดำเนินตามรอยเท้าของชัยฏอน ห้ามการกินดอกเบี้ยและข่มเหงมนุษย์ด้วยกัน เน้นให้ยึดหลักการต่างๆ และข้อบัญญัติของอิสลาม สั่งเสียให้ผู้ชายทำดีต่อบรรดาสตรี ให้เมตตาสงสารและเอาใจใส่ต่อสิทธิต่างๆของพวกนาง และยังได้แจ้งสิทธิของสามีที่มีต่อภรรยา เชื่อฟังบรรดาผู้นำ ในการทำความดี สั่งเสียให้ทำดีต่อทาส (*9*)เมื่อการทำฮัจย์อำลาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ท่านเราะซูล ได้ชี้แจงสาระสำคัญและคำสั่งต่างๆของอิสลาม ซึ่งเป็นความโปรดปรานของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ให้ศาสนาของพระองค์สมบูรณ์ และทรงมอบให้กับมุสลิมทุกคน โดยที่พระองค์ประทานอายะฮ์สุดท้าย เพื่อเป็นการยืนยันถึงความโปรดปรานของพระองค์ในโองการที่ว่า :
วันนี้เราได้ทำให้ศาสนาของพวกท่านสมบูรณ์แล้ว และความโปรดปรานของข้าที่ให้แก่พวกท่าน ก็สมบูรณ์เช่นกัน และเราพอใจที่จะให้อิสลามเป็นศาสนาของท่าน ( อัลมาอิดะฮ์ 5 : 3)
ดร.อัดุลลอฮฺ อิบนุ อับดิรเราะฮ์มาน อัลค็อรอาน
...ประเด็นต่างๆในการศึกษาชีวประวัตินะบีมุฮัมมัด
- ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุ้ลมะฆอซี บาบุฆ้อซวะตุ้ลฟัตหฺ ฮะดิษที่ 4302ฟิลฟัตหิ้ลร็อบบานี 8/22
- ซีเราะฮฺอิบนุฮิชาม 4/221-222
- อัลอัมรี อัซซีเราะต้ลนะบะวียะฮฺอัซซ่อฮีฮะฮฺ 2/541. เหมือนกับท่านซามีได้กล่าวไว้ในซีเราะฮฺของเขา
- เพื่อเป็นการพอเพียงต่อการอธิบายรายละเอียดถึงจำนวนกลุ่มคน ดู مهدي رزق الله ซีเราะฮฺ อิบนุฮิชาม 4/221 และถัดมา . อัตต่อบะกอต อัลกุบรอ ลิอิบนิซะอฺ 1/259-291
- อัตต่อบะกอต อัลกุบรอ ลิอิบนิซะอฺ 1/291- 292 -295
- อิมาดุดดีน ค่อลีล ดิรอซะฮฺ ฟิซซีเราะฮฺ 264
- ซีเราะฮฺอิบนุฮิชาม4/276. อบูซัรอะฮฺแจ้งจำนวนดังกล่าว อัลอัมรี อัซซีเราะต้ลนะบะวียะฮฺอัซซ่อฮีฮะฮฺ 2/549
- สุนัน อัลติรมิซี กิตาบุ้ลฮัจฮฺ 55 . มุสนัด อิม่ามอะฮฺมัด 5/262
- คำปราศรัยของท่านร่อซูลในเทศกาลฮัจฮฺ ดู ซอฮีฮุลบุคอรี กิตาบุ้ลมะฆอซี บทฮัจฮฺอำลา ฮะดิษที่ 4403-4406 . ซอเฮี๊ย มุสลิม 2/889-890 مهدي رزق الله อัซซีเราะตุ้ลนะบ่าวี 683