ท่าทีของท่านเราะซูล(ศ็อลฯ)ต่อยะฮูด ที่คอยบัร
หลังจากที่พวกยิว(ยะฮูด)ได้ถอนตัวออกไปจากเมืองมะดีนะฮ์ เมืองคอยบัรได้กลายเป็นศูนย์กลางของยะฮูดในคาบสมุทรอาหรับ บรรดาผู้นำกลุ่มต่างๆ ของยะฮูดที่หนีจากเมืองมะดีนะฮ์จึงไปอยู่ที่เมืองคอยบัร พวกเขาได้เริ่มวางแผนที่จะจัดการกับศาสนาอิสลาม จึงคิดทำสงครามเพื่อทำลายล้างเมืองมะดีนะฮ์ โดยตั้งใจที่จะโจมตีมุสลิมทีเดียวพร้อมๆกัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ท่านนะบี ได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมกับพวกกุเรชที่ตำบล ฮุดัยบียะฮ์ ต่อจากนั้นจึงมุ่งหน้าไปเมืองคอยบัร ในปีที่ 7 กองกำลังมุสลิมได้ปิดล้อมเมืองคอยบัร และทำการพิชิตเมืองคอยบัร โดยได้เข้าไปจัดการป้อมปราการทีละป้อม หลังจากที่มีการสู้รบกันอย่างหนัก ในที่สุดพวกยิวได้ยอมจำนนและยอมปฏิบัติตามคำตัดสินของท่านเราะซูล ที่ให้พวกเขาถอนตัวออกไปจากเมืองคอยบัร(*1*) แต่เนื่องจากเมืองคอยบัร อุดมสมบูรณ์ไปด้วยการเกษตรและการค้า และมุสลิมไม่สามารถไปสร้างหลักปักฐานแทนที่พวกยะฮูดได้ เพราะมีภารกิจในการช่วยเหลืองานเผยแพร่ศาสนาและต่อสู้ป้องกันศาสนา
ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงให้พวกยะฮูดอยู่ทำการเกษตรตามคำร้องขอ โดยที่จะต้องแบ่งครึ่งหนึ่งของผลผลิตให้กับมุสลิม(*2*) และมุสลิมมีสิทธิที่จะให้ออกจากพื้นที่เพาะปลูกเมื่อมีความจำเป็น พวกยะฮูดได้อาศัยอยู่ที่นั่นเรื่อยมาจนถึงยุคสมัยของ ท่านอุมัร อิบนุ ค็อฏฏ๊อบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ โดยที่ท่านต้องการให้พวกยิวออกไปเนื่องจากมีความจำเป็นบังคับ
หลังจากพิชิตคอยบัรได้แล้ว ยะฮูดที่เหลือในคาบสมุทรอาหรับจึงเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของท่านนะบี เช่น ยะฮูด ฟะดัก ยะฮูด ตัยมาอ์ และยะฮูด กุรอ การปฏิบัติได้เหมือนกับที่ได้ปฏิบัติกับยะฮูด คอยบัร (*3*)
พวกยิว(ยะฮูด)สามารถที่จะอาศัยอยู่ในเมืองมะดีนะฮ์และคาบสมุทรอาหรับได้อย่างสงบสุข และปลอดภัย หากปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้กับมุสลิมอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และแสดงเจตนารมณ์ที่ดีให้เห็นชัดเจน แต่เพราะความอิจฉาริษยาความเครียดแค้นที่มีต่อท่านนะบี ผู้มีเมตตา ผู้มีเกียรติ และศาสนาอิสลาม กลับทำให้พวกเขามองไม่เห็นความจริงในเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่วินาทีแรกที่มีการติดต่อสัมพันธ์กับท่านนะบี จนวินาทีสุดท้าย
ท่านหญิงซอฟียะฮ์ บินติ ฮุยัยย์ อิบนุ อัคต็อบ ได้บอกไว้ว่า : หลังจากที่เข้ารับอิสลามและสมรสกับท่านนะบี ฮุยัยย์ อิบนุ อัลค๊อฏฏ๊อบ อัลนะฎีรีย์ บิดาของเธอ และพี่น้องบิดา คือ อบู ยาซิร อิบนุ อัคต็อบ ได้มาหาท่านนะบี ที่เมืองมะดีนะฮ์ ต่อมาคนทั้งสองจึงเดินทางกลับมาในสภาพอ่อนเปลี้ยหมดแรง เท้าของคนทั้งสองแทบจะประคองตัวไม่ไหวอันเนื่องจากประจักษ์ว่า ท่านนะบี นั้นเป็นนะบี ที่แท้จริง
ท่านหญิงซอฟียะฮ์ได้กล่าวอีกว่า ฉันได้ยิน อบู ยาซิร ลุงของฉันพูดกับฮุยัยย์ บิดาของฉันว่า :
เขาคือนะบีใช่ไหม?
ฮุยัยย์ กล่าวตอบว่า :
ใช่แล้ว ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
อบู ยาซิร กล่าวว่า :
ท่านรู้จักเขาและยืนยันใช่ไหมว่าเขาเป็นนะบี?
ฮุยัยย์ ตอบว่า :
ฉันยืนยันได้
อบู ยาซิร ถามต่อไปว่า :
ในใจของท่านคิดอย่างไรกับเขา ?
ฮุยัยย์ กล่าวตอบว่า :
เป็นศัตรูของฉันนะซิ ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ว่า ความเป็นศัตรูคงมีอยู่ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ (*4*)
ฮุยัยย์ เป็นศัตรูอย่างรุนแรงในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับท่านเราะซูล เมื่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงให้ทำการจับกุมตัวเขาพร้อมกับยะฮูด บะนีย์ กุรอยเซาะฮ์ และขณะที่นำตัวมาเพื่อประหารชีวิต ท่านเราะซูลได้เห็นฮุยัยย์ ท่านได้กล่าวว่า :
أما والله مالمت نفسي في عداوتك ولكنه من يخذل الله يخذل
ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ว่า ฉัน (มุฮัมมัด) ไม่ตำหนิตัวของฉันในการเป็นศัตรูกับท่าน แต่ทว่าใครก็ตามที่ทอดทิ้งอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เขาจะถูกทอดทิ้งอย่างแน่นอน (*5*)
ท่านฆ่อซาลีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ (*6*) ได้กล่าวถึงสาเหตุการเป็นศัตรูของพวกยะฮูดต่อมุสลิมไว้ว่า :
แท้จริง มีคำอธิบายสำหรับเหตุการณ์นี้ คือ ความสัมพันธ์ของพวกยะฮูดต่อศาสนาของพวกเขาต้องขาดสะบั้นลง และวิถีทางในการดำเนินชีวิตไม่ได้เชื่อมโยงติดต่อกับมรดกแห่งฟากฟ้า (คัมภีร์แห่งพระเจ้า) อีกต่อไป พวกเขาไม่ให้ความสำคัญ ไม่ให้ความสนใจต่อสิ่งที่ใกล้เคียงกับ อะกีดะตุ๊ตเตาว์ฮีด (หลักเอกภาพ) หรือบทบัญญัติต่างๆที่มีอยู่ในเตาร๊อต และหลักอะกีดะฮ์ที่มีได้ปรากฏอยู่ตรงหน้า พวกเขาใช้อารมณ์เป็นใหญ่ และรักที่จะเกาะติดอยู่กับสิ่งที่พวกเขารักตลอดไป ณ จุดนี้เองทำให้พวกเขาสงสัยในคุณค่าของอัลกุรอาน การอีมาน(ศรัทธา) ที่ได้กล่าวไว้
และเมื่อได้ถูกกล่าวแก่เขาเหล่านั้นว่า จงศรัทธาต่อสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาเถิด พวกเขาก็กล่าวว่า เรากำลังศรัทธาต่อสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาแก่เราอยู่แล้ว และพวกเขาปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งอื่นจากนั้น ทั้งๆ ที่สิ่งนั้นคือ ความจริง โดยยืนยันสิ่งที่มีอยู่กับพวกเขา(มุฮัมมัด) จงกล่าวเถิดว่า เพราะเหตุใด เมื่อก่อนพวกท่านจึงได้ฆ่า นะบีของอัลลอฮ์ ถ้าหากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา? (อัลบะเกาะเราะฮ์ 91)
อัลฆ่อซาลีย์ กล่าวว่า :
กลุ่มต่าง ๆ ของพวกยะฮูดที่อาศัยร่วมกับชาวอาหรับ เป็นกลุ่มกองโจรรับจ้างที่ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้มาซึ่งระบบเศรษฐกิจ เมื่อรู้สึกถึงความอยากได้และความละโมบเป็นความคิดที่ผิดพลาด จึงกล่าวว่า กลุ่มของพวกเขาจะต้องจบสิ้นไม่เหลืออะไร และได้เปิดเผยการปฏิเสธศรัทธาที่ปกปิดซ่อนเร้นเอาไว้ออกมาอย่างชัดเจน แล้วมันก็คือการปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และปฏิเสธศรัทธาต่อบรรดาเราะซูลของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นั่นเอง
ดร.อัดุลลอฮฺ อิบนุ อับดิรเราะฮ์มาน อัลค็อรอาน
...ประเด็นต่างๆในการศึกษาชีวประวัตินะบีมุฮัมมัด
- จากการพิชิตคอยบัร ดูหนังสือซีเราะฮฺ อิบนุ ฮิชาม เล่ม 3 หน้า 378 และหน้าหลังจากนั้น
- ซอฮี๊ฮฺ อัลบุคอรีย์ บทที่ว่าด้วยเรื่อง สมรภูมิ ภาคที่ว่าด้วยการปฏิบัติกับชาวคอยบัรของท่านนบี เล่มที่ 40 ซอฮี๊ฮฺ มุสลิม บทที่ว่าด้วยเรื่อง อัลมุซาก้อตุ ภาค อัลมุซาก้อตุ อัลมุอามะละติ (กิจกรรมร่วมกันในส่วนของอินทผลัมและพืชผล
- อัลบะลาซีรีย์ ในหนังสือฟุตุ้ฮฺอัลบุลดาน หน้า 42 47 อิบนุ กอยยิม ซาดัลมะอ๊าด เล่ม 1 หน้า 405
- ซีเราะฮฺ อิบนุ ฮิซาม เล่ม 2 หน้า 140 141 รายงานเรื่องนี้จาก อิบนิ อิสฮาก
- ซีเราะฮฺอิบนิ ฮิชาม เล่ม 3หน้า 260 อัซซีเราะฮฺ อัลนะบะวียะฮฺ ของอิบนิ กะซี๊รฺ เล่ม 3 หน้า 239 รายงาน อิบนิ อิสฮาก
- ฟิกฮุซ ซีเราะฮฺ หน้า 261-262