การทำสัตยาบัน “อัลอะกอบะฮ์”
  จำนวนคนเข้าชม  16125

 

การทำสัตยาบัน “อัลอะกอบะฮ์”

 

ครั้งที่หนึ่ง

          การศรัทธาได้มีอยู่เต็มหัวใจของกลุ่มคนจากเผ่า “ค็อซร็อจญ์”ทั้งหกคน สร้างความสงบสุข และความพึงพอใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยความปลื้มปิติยินดี เนื่องจากความหวังที่จะให้เกิดความสันติสุขในหมู่พี่น้องจากเผ่า “เอ๊าซ์”  จึงทำให้พวกเขาพูดถึงอิสลามและประกาศเชิญชวนให้ชาวเมือง “ ยัษริบ” เข้ารับอิสลาม จนกระทั่งวงสนทนาของเผ่า “เอ๊าซ์” และ “ค็อซร็อจญ์” มีแต่การพูดถึงอิสลาม และกล่าวขวัญถึงอิสลามอยู่ไม่ขาดปากในทุกๆบ้าน และการเชิญชวนของพวกเขาได้ส่งผลให้ผู้คนเข้ารับอิสลามจนเป็นที่น่ายินดี

          เมื่อเทศกาลฮัจญ์ได้มาถึงในปีต่อมา ชาวเมืองยัษริบจำนวน 12 คนได้มาทำฮัจญ์  เป็นชาวเผ่า “ค็อซร็อจญ์” 10 คน เป็นชาวเผ่า “เอ๊าซฺ” 2 คน   พวกเขาได้พบกับท่านเราะซูล ที่ “ อัลอะกอบะฮ์ ” เป็นสถานที่ซึ่งอยู่ที่มีนา พวกเขาได้ทำสัตยาบันกับท่านเราะซูล  ในการที่จะยึดมั่นอยู่กับบทบัญญัติของอิสลาม จริยธรรม ตลอดจนการภักดีต่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ภักดีต่อเราะซูลของพระองค์ แต่การทำสัตยาบันในครั้งนั้น  มิได้ระบุว่าจะต้องให้ที่พักพิงหรือให้การอุปถัมภ์คุ้มกันการเผยแพร่ศาสนาของท่านนะบีมุฮัมมัดแต่อย่างใด  อุบาดะฮ์ บิน อัซซอมิต รอฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้กล่าววว่า :

          “พวกเราได้ทำสัตยาบันกับท่านเราะซูล ในการที่เราจะไม่ตั้งภาคีใดๆต่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา  เราจะไม่ลักขโมย  เราจะไม่ละเมิดทางเพศ(ทำซินา)  เราจะไม่สังหารลูกๆของพวกเรา  เราจะไม่กุความเท็จขึ้น และเราจะไม่ฝ่าฝืนท่านนะบี ในเรื่องที่เป็นคุณธรรม” (*1*)
   
          เมื่อการทำฮัจญ์ได้เสร็จสิ้นลง ท่านเราะซูล จึงได้ส่ง มุศอับ บิน อุมัยร์ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ  เพื่อไปทำหน้าที่สอนบทบัญญัติอิสลาม ตลอดจนสอนอัลกุรอานให้พวกเขาได้เป็นอิมามนำละหมาดหมู่พวกเขาเอง

          มุศอับ บิน อุมัยร์ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้รับความสำเร็จในการทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ที่ได้รับคัดเลือกจากท่านเราะซูล ให้ไปทำหน้าที่นั้น มุศอับ บิน อุมัยร์ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ  ไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆในการเรียกร้องเชิญชวน  มิได้พูดจาหว่านล้อม หรือ ครอบงำผู้คนด้วยการให้สัญญา ให้ความหวังเกี่ยวกับชีวิตในโลกนี้  มุศอับ มิได้พกพากระสอบเงินหรือสมบัติใดๆไปแจกจ่ายให้คนยากคนจน เพื่อชักชวนพวกเขาโดยอาศัยความยากจน   เพราะการทำเช่นนั้นไม่สามารถเข้าไปถึงหัวใจ  และมิได้เข้าไปสู่ความต้องการด้วยความยอมรับอย่างจริงใจ   แต่ว่ามุศอับ เปี่ยมไปด้วยความศรัทธามั่นในการที่จะทำให้เกิดความสำเร็จในหน้าที่อันสูงส่ง ซึ่งใครก็ตามที่พบเห็นจะพบว่า มีแสงสว่างอยู่บนใบหน้าและการแสดงออกซึ่งความจริงจังในคำพูด มีความมุ่งมั่นแน่วแน่เด็ดเดี่ยวในการเผยแพร่ศาสนา และเสียสละทุ่มเทเพื่อศาสนาอิสลามอีกด้วย มุศอับ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมาจากนครมักกะฮ์ ภายใต้การถูกกดขี่ และการบีบคั้นจากบรรดาผู้ปฏิเสธ สิ่งสำคัญคือ เขามีอัลกุรอานที่มั่นคงอยู่ในหัวใจ เมื่อมุศอับ ได้อ่านอัลกุรอานออกมา ผู้คนทั้งหลายก็ไม่สามารถที่จะห้ามหัวใจของพวกเขามิให้ตอบรับในสิ่งที่ได้ยินได้

 

ครั้งที่สอง

          เวลาเกือบหนึ่งปีที่เมือง “ยัษริบ” มุศอับ บิน อุมัยร์ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ  ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละในการทำหน้าที่ ไม่ท้อถอยในการเผยแพร่ศาสนาอิสลาม  จนกระทั่งทุกบ้านของชาวอันศ็อรจากเผ่า “เอ๊าซ์” และ “ค็อซร็อจญ์” จะต้องมีชายหญิงที่เป็นมุสลิมอยู่ภายในบ้าน โดยเฉพาะหัวหน้าเผ่า และผู้อาวุโสของตระกูล(*2*) ไม่เพียงแต่อิสลามจะสร้างความสนิทชิดเชื้อให้กับทั้งสองตระกูล คือ “เอ๊าซ์” และ “ค็อซร็อจญ์” ขจัดความร้าวฉาน และการเข่นฆ่ากันจากทั้งสองเผ่า  อีกทั้งพวกเขายังได้ดำเนินวิถีชีวิตตามแนวทางของศาสนา จนทำให้เกิดความปลอดภัยในการเผยแพร่ และสนับสนุนศาสนฑูตของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ซึ่งสำคัญยิ่งกว่าผลประโยชน์ของพวกเขาเอง สิ่งที่อยู่ในจิตสำนึกของชนเผ่าทั้งสอง พวกเขาได้รับรู้ถึงสภาพของท่านเราะซูล และบรรดาซอฮาบะฮ์ที่กำลังถูกบีบคั้นอย่างรุนแรง  ดังที่ญาบิร บิน อับดิลลาฮ์ อัลอันซอรีย์ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ  ได้พูดว่า  :

          “แล้วพวกเราจะปล่อยท่านเราะซูล ให้ตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นไว้อีกนานสักเท่าใด        ขณะที่ท่านถูกขับไล่ไปอยู่ภูเขาที่มักกะฮ์ ? ช่างน่าเป็นห่วงเหลือเกิน! ...”   

          ในที่สุดพวกเขาได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า จะต้องเชิญท่านเราะซูล มาอยู่ที่ “ยัษริบ”  และให้การสนับสนุนท่าน  ช่วงก่อนที่จะถึงเทศกาลฮัจญ์  มุศอับ บิน อุมัยร์ ได้กลับมายังมักกะฮ์ และแจ้งข่าวดีต่อท่านเราะซูลุลลอฮ์ ถึงผลสำเร็จที่ได้ทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย และแจ้งให้ท่านทราบว่า จะมีคณะจาก “ยัษริบ” ของผู้ที่เข้ารับอิสลามมาทำสัตยาบันกับท่านนะบี  คณะจาก “ยัษริบ”ได้ปกปิดเจตนารมณ์ในการมามักกะฮ์ไว้เป็นความลับ  เมื่อมาถึงนครมักกะฮ์จึงได้ติดต่อกับท่านเราะซูล อย่างลับๆ  ท่านนะบี ได้นัดพบกับพวกเขาในขณะที่บรรดาฮุจญ๊าจญ์กำลังยุ่งอยู่ในเรื่องทำฮัจญ์  พวกเขาอาศัยความมืดทยอยกันเข้ามาพบท่านเราะซูล จนครบหมดทุกคนที่ “อัลอะกอบะฮ์” ทั้งหมดมีจำนวน 73 คน  มีสุภาพสตรี 2 คน  จากการพูดคุยสนทนากันระหว่างบรรดามุสลิมชาวอันศ็อรกับท่านเราะซูลุลลอฮ ได้มีท่าน อัลอับบาส บิน อับดิลมุฏฏอลิบ ลุงของท่านนะบี ร่วมอยู่ด้วย  ทั้งๆ ที่ยังมิได้เข้ารับอิสลาม แต่เพื่อให้การรับรองแก่หลานชายและเป็นการค้ำประกันความมั่นคงให้แก่ท่านนะบีในการให้คำมั่นสัญญากับชาวอันศ็อร  ท่านเราะซูล ได้ทำสัตยาบันกับบรรดามุสลิมชาวอันศ็อรว่า  :  

          “ท่านทั้งหลาย ได้ทำสัตยาบันกับฉันในการที่จะเชื่อฟังและภักดีต่อฉันทั้งในยามสุขสบายและในยามทุกข์ยาก และจะเชื่อฟังปฏิบัติตามฉันในเรื่องการใช้กันให้ทำดี  ห้ามปรามยับยั้งกันมิให้ทำความชั่ว และในการที่พวกท่านจะต้องพูดเรื่องของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา โดยที่พวกท่านจะไม่เกรงกลัวการตำหนิติเตียนจากผู้ใดทั้งสิ้น และพวกท่านจะต้องให้การสนับสนุนฉัน(ท่านนบี) และปกป้องฉันในขณะที่ฉันอพยพไปยังพวกท่าน  เหมือนกับที่พวกท่านปกป้องตัวของพวกท่านเอง ตลอดจนบรรดาภรรยาและลูกๆของพวกท่าน แล้วพวกท่านก็จะได้เข้าสวรรค์”  

          บรรดาชาวอันศ็อรต่างมีความปลื้ม ปิติยินดี ภายหลังจากที่ได้ให้คำสัตยาบัน ว่าจะดำเนินชีวิตตามรูปแบบของอิสลาม และเชื่อฟังศาสนทูตของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แต่พวกเขามิต้องการที่จะให้ข้อผูกมัดนี้มาจากฝ่ายเดียว  ดังนั้น  คนหนึ่งจึงได้ขึ้นพูดว่า :

          “โอ้ ท่านเราะซูลของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แท้จริงแล้ว   ในระหว่างพวกเรากับอีกหลายคนมีข้อผูกพันกันอยู่  และเราได้ตัดขาดพวกเขาแล้ว (หมายถึงพวกยิว) ท่านคิดหรือไม่ว่า หากเราได้ทำเช่นนี้ แล้วอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ทรงให้ท่านได้รับชัยชนะ  แล้วท่านกลับไปยังกลุ่มชนของท่าน แล้วท่านจะปล่อยพวกเราไว้ใช่หรือไม่ ? ”    

ท่านเราะซูลุลลอฮ์ จึงยิ้มแล้วกล่าวว่า :

          “มิใช่เช่นนั้นดอก เลือดก็เลือด พังก็พัง ฉันเป็นส่วนหนึ่งในพวกท่าน พวกท่านเป็นส่วนหนึ่งจากฉัน ฉันจะสู้รบกับพวกที่ท่านทำการสู้รบ และฉันจะประนีประนอมกับพวกที่พวกท่านประนีประนอม”  (*3*)

          คณะจาก “ ยัษริบ” ได้เดินทางกลับ  หลังจากที่ภาระหน้าที่อันสำคัญได้เสร็จสิ้นลง ด้วยการที่ได้ทำสัตยาบันกับท่านเราะซูล แล้วพวกเขาจึงรอคอยการอพยพของท่านนะบี และบรรดาซอฮาบะฮ์ อย่างใจจดใจจ่อ

 

ดร.อัดุลลอฮฺ  อิบนุ อับดิรเราะฮ์มาน อัลค็อรอาน

 ...ประเด็นต่างๆในการศึกษาชีวประวัตินะบีมุฮัมมัด 


  1. เรื่องการทำสัตยาบัน ดูหนังสือ ซอฮีฮุลบุคอรี มนากิบุ้ลอันศ็อร บาบุ วุฟูดุ้ลอันศ็อร วะบัยอะตุ้ลอะกอบะฮฺ และซอฮีฮุมุสลิม กิตาบุ้ลฮุดูด บาบุ้ลฮุดูด กัฟฟารอต ลิอะฮฺลิฮา ซีเราะฮฺ อิบนุซิฮาม 39-41
  2. ซีเราะฮฺ อิบนิ ฮิชาม เล่ม 2 หน้า 46
  3. เรื่อง  การทำสัตยาบันที่-อัลอะกอบะฮฺ-ครั้งที่สองนี้  ให้ไปดูที่  หนังสือ สุนัน อัลบัยฮะกีย์ เล่ม 9 หน้า 9 หนังสือ อัลมุสตัดร็อก ของอัลฮากิม เล่ม 2 หน้า 624 หนังสือ ซีเราะฮฺ อันนะบะวียะฮฺ ของอิบนิ  กะซี๊ร เล่ม2 หน้า 193 และหนังสือ ฟัตฮุลบารีย์ ของ อิบนิ  ฮะญัร 2222