ราชวงค์อุมัยยะฮ์ (The Umayyad Dynasty)
ตอนที่ 2
เมื่อท่านอุมัรสิ้นชีพลงยะชีดที่ 2 ก็ขึ้นครองราชย์ ในรัชสมัยของท่านยะชีดที่ 2 เกิดกลุ่มกบฏต่างๆ ที่ไม่พอใจในตัวเคาะลีฟะฮ์ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและประเทศกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตในขณะเดียวกันเคาะลีฟะฮ์ไม่ค่อยสนใจในการบริหารประเทศมากนัก ระหว่างนั้นพวกอับบาสียะฮ์เริ่มมีอำนาจและแข็งข้อขึ้น ตอนแรกกระทำกันอย่างลับๆ แต่ต่อมา ได้ทำกันอย่างเปิดเผยเพื่อโค่นล้มราชวงศ์อุมัยยะฮ์ลง ท่านฮิชามอนุชาของยะซีดที่ 2 ขึ้นครองราชย์ต่อจากท่านยะซีด ต้องเผชิญหน้ากับความยุ่งยากลำบากทั้งภายในและภายนอกประเทศ ในรัฐสมัยของท่าน การต่อสู้ระหว่างพวกอุมัยยะฮ์กับพวกอับบาสียะฮ์ดำเนินไปอย่างรุนแรง มีการก่อการจลาจลวุ่นวายทั่วราชอาณาจักร เคาะลีฟะฮ์ฮิชามสิ้นชีพในปี ฮ . ศ . 743เมื่อฮิชามสิ้นชีพ วะลีดที่ 2 ขึ้นครองราชย์ ในตอนแรกท่านพยายามเอาชนะใจประชาชน โดยการเพิ่มเงินช่วยเหลือแก่คนยากจน คนชราและคนพิการแต่ความโหดร้ายที่มีต่อครอบครัวท่านอะลีและบนีฮาชิมก็ทำให้ชื่อเสียงของท่านฉาวโฉ่ไปทั่วประเทศ ปกครองได้ไม่ถึงปีก็ถูกท่านยะซีดที่ 3 โอรสของเคาะลีฟะฮ์วะลีดที่ 1 ก่อการกบฏและถูกสังหารเสียชีวิต
เมื่อวะลีดที่ 2 สิ้นชีพท่านยะซีดที่ 3 ผู้ก่อการกบฏก็ขึ้นเป็นเคาะลีฟะฮ์ ท่านเป็นคนใจบุญและเคร่งศาสนา เมื่อครองราชย์จึงได้สัญญาว่าจะปลดเปลื้องความเดือดร้อนของประชาชน จะลดภาษีและจะปราบปราบข้าราชการที่ทุจริตคดโกง แต่ท่านอยู่ในราชสมบัติไม่นานพอที่จะทำตามที่ได้สัญญาไว้ ท่านต้องผจญกับความยากลำบากนานาประการมาตั้งแต่ต้น มีการกบฏทั้งในปาเลสไตน์และแอฟริกา ท่านครองราชย์ได้แค่ 6 เดือนก็สิ้นพระชนม์
และท่านอิบรอฮีม น้องชายของยะซิดขึ้นเป็นเคาะลีฟะฮ์แทน แต่ได้รับการยอมรับจากคนเพียงบางส่วนเท่านั้น จนกระทั่งท่านมัรวานที่ 2 ก่อรัฐประหารยึดอำนาจ เคาะลีฟะฮ์มัรวาน ที่ 2 หรือมัรวานอัลหิมาร์ ได้ย้ายเมืองหลวงจากดามัสกัสไปอยู่ที่ฮัรรอน ซึ่งทำให้ชาวซีเรียไม่พอใจและรวบรวมกำลังขึ้นต่อต้านเคาะลีฟะฮ์ ท่านมัรวานต้องผจญกับความยากลำบากต่างๆ นานา มีการกบฏในปาเลสไตน์ พวกคอวาริจญ์แข็งข้อขึ้น และพวกบานีฮาชิมแพร่ขยายตัวออกไปอย่างน่ากลัว เกิดความครุ่นแค้นคุกรุ่นขึ้นทั่วราชอาณาจักรอุมัยยะฮ์ กองทัพซีเรียได้อ่อนแอลง ฉะนั้นสมัยของมัรวานจึงเต็มไปด้วยการต่อสู้ จนกระทั่งในปี ค . ศ . 750 อบูมุสลิมซึ่งเป็นตัวแทนการเคลื่อนไหวของกลุ่มอับบาสีย์พร้อมกับพรรคพวกได้ก่อกบฎและยึดเมืองคูราซาน (Khurasan) ได้สำเร็จ พร้อมกับขับไล่นัศร์ อิบนุ สัยยาร ซึ่งเป็นข้าหลวงของเคาะลีฟะฮ์มัรวานที่ 2 ประจำแคว้นคูราซานออกจากพื้นที่ การก่อกบฏและยึดอำนาจได้ขยายไปเรื่อยๆ ยังแคว้นอื่นๆ จนกระทั่งเคาะลีฟะฮ์มัรวานที่ 2 ซึ่งเป็นเคาะลีฟะฮ์คนสุดท้ายของราชวงค์อุมัยยะฮ์ถูกสังหารเสียชีวิต
เมื่อกลุ่มอับบาสีย์ประสบความสำเร็จในการยึดอำนาจและโค่นล้มราชวงศ์อุมัยยะฮ์ พวกเขาได้พยายามประหัตประหารล้างเผ่าพันธุ์ทุกคนในตระกูลอุมัยยะฮ์ มีคนในตระกูลอะมะวีย์ไม่กี่คนที่สามารถหนีรอดจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์นี้ได้ ในบรรดาผู้ที่หนีรอดเหล่านั้นคือท่านอับดุลเราะหมาน ซึ่งเป็นหลานปู่ของเคาะลีฟะฮ์ฮิซามได้หนีเอาชีวิตรอดไปที่แอฟริกาเหนือและต่อมาได้สร้างราชวงศ์อุมัยยะฮ์ที่สเปนขึ้น
ด้านการศึกษาในสมัยราชวงค์อุมัยยะฮ์ เคาะลีฟะฮ์ จะให้ความสำคัญในด้านการศึกษา ตามหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ มักกะฮ์ มะดีนะฮ์ บัสเราะฮ์ กูฟะฮ์ ซีเรีย อิสกันดัร (ประเทศสเปน) ฟุรตอต และอีกหลายๆเมืองในสมัยนั้น สาขาวิชาต่างๆที่เกิดขึ้นในสมัยอุมัยยะฮ์ได้แก่ วิชานาฮู (วิชาวสกยสัมพันธ์) แต่งขึ้นโดย อาบูอัลอัซวัด อัฎฎออาลี ที่เมืองบัสเราะฮ์ ได้มีการเรียบเรียงหะดิษจากบรรดาเหล่าศอฮาบะฮ์ และวิชาตัฟเซร โดยมีบรรดาอุลามาอ์หลายคนให้ความสำคัญกับวิชาตัฟเซร เช่น อับดุลลอฮ์ บิบ อับบาส และในสมัยนี้ได้มีการขยายความรู้ด้านวิชาสามัญ (วิชาการทางโลก) เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาเคมี การแพทย์ ประวัติศาสตร์ ปรัชญา เป็นต้น ผู้ที่มีความเชี่ยวชานในสาขาวิชาการแพทย์คือ อัล ฮาริษ อิบนุ กะลาดะฮ์ ผู้ที่มีชื่อเสียงสาขาวิชาเคมี คือ คอลิด อิบนุ ยะสีด และมีกำเนิดการทำฮาลาเกาะฮ์ ในมัสยิดเริ่มทำที่ มักกะฮ์ โดย อับดุลลอฮ์ บิน อับบาส
สถานศึกษาในสมัยอุมัยยะฮ์1. ราชวัง เคาะลีฟะฮ์จะสร้างที่เฉพาะให้แก่ครู เพื่อเป็นสถานที่เล่าเรียนสำหรับเด็กๆในราชวัง
2. มัสยิด เป็นสถาบันที่เก่าแก่ที่สุดและมีทบบาทมากในสมัยอุมัยยะฮ์ส่วนใหญ่จะสอนวิชาศาสนา เช่น วิชาตัฟซีร หะดิษ และฟิกฮ์ เป็นต้น
3. บ้านผู้รู้ บ้านผู้รู้เป็นสถาบันการศึกษาถือเป็นสถาบันการศึกษาแห่งที่สำคัญในสมัยอุมัยยะฮ์
4. ทะเลทราย เป็นสถานที่ ที่ผู้คนในสมัยอุมัยยะฮ์ส่งลูกไปเรียนภาษาอาหรับ อันเป็นที่อยู่ของผู้รู้
งานสถาปัตยกรรมสมัยอุมัยยะฮ์งานสถาปัตยกรรมด้านต่างๆในสมัยอุมัยยะฮ์ บรรดาเคาะลีฟะฮฺจะให้ความสำคัญกันงาน ด้านสถาปัตยกรรมและ สถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นในสมัยนี้ไดแก่
1.โดมออฟเดอะร็อค (Dome of the Rock) สร้างขึ้นในสมัย เคาะลีฟะฮฺอับดุลมาลิด ซึ่งเป็นมัสยิดที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากในกรุงเยรูซาเล็ม สร้างในปี ค.ศ. 691 ท่านเป็นนักสร้างที่ยิ่งใหญ่ ได้บูรณะและขยายมัสยิดแห่งมะดีนะฮ์และมัสยิดอัลอักซอในเยรูซาเล็ม
2 . เคาะลีฟะฮฺสุลัยมาน ได้สร้างมัสยิดแห่งร็อมละฮฺ อันงดงามขึ้น
3. กุสัยร์ อัมเราะฮ์ หรือปราสาทน้อยแห่งอัมเราะฮ์ นับว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมชั้นยอดที่ราชวงค์อุมัยยะฮฺได้ทิ้งไว้เป็นอนุสรณ์
สรุปการเปลี่นแปลงสมัยอุมัยยะฮ์1. มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองจากสาธารณรัฐเป็นราชอาณาจักร โดยเปลี่ยนจากตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์กลายเป็นตำแหน่งกษัตริย์โดยการสืนสันติวงค์
2. เป็นสมัยที่มีการขยายดินแดนได้อย่างกว้างขวางครอบคลุมถึง 3 ทวีป ได้แก่ ทวีปเอเชีย ทวีปยุโรป ทวีปแอฟริกา
3.มีการจัดตั้งกรมสารบรรณ กรมไปรษณีย์ กองกำลังตำรวจและกองทหารองครักษ์ ขึ้น
4. มีระบบการบริหารการปกครองส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นโดยแต่งตั้งเจ้าเมืองปกครองตามหัวเมืองต่างๆ
5.มีการออกเหรียญ เงิน อาหรับใช้เอง
6. มีการปรับปรุงการเขียนภาษาอาหรับโดยการนำเอาสระและเครื่องหมายจุดมาใช้ในภาอาหรับ
7. ได้มีการสร้างเรือขนาดใหญ่ขึ้นในสมัยราชวงค์อุมัยยะฮ์
8.ได้มีการจักทำกระดาษได้ขึ้นเป็นครั้งแรก
9.ได้มีการจัดตั้งด่านคนเข้าเมืองและมีการประทับตราการเข้าออกเหมือการทำหนังสือเดินทางในปัจจุบัน
10.ได้มีการสร้างมัสยิดที่สวยงาม และมีชื่อสียงจนถึงปัจจุบัน เช่น โดมออฟเดอะร็อก
11.ได้มีการสร้างสถานที่เป็นศูนย์รวมของนักอาซานทางทิศเหนือของแอฟริกา
12.ได้มีการสร้างสถานศึกษา อัม อิบนุลอัส ที่ฟุตตอต (แอฟริกา)
13.ได้มีการบูรณะ ขยายมัสยิดแห่งมะดีนะฮ์และมัสยิดอันอักซอ(ในเยรูซาเล็ม) ได้มีการสร้างมัสยิดขึ้นทุกเมือง
14.มีการสร้างโรงเรียนและโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลคนตาบอด
ที่มา : Islamic information center of psu Fathoni
Part 1 >>>> Click