ท่านอัลบะร็ออฺ อิบนิ มาลิก อัลอันซอรีย์ 2

       แต่อย่างไรก็ตามวีรกรรมที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนั้นคงจะกลายเป็นวีรกรรมเล็กๆ  เมื่อเทียบกับวีรกรรมของท่านอัลบะร็ออฺ อิบนิ มาลิก ขออัลเลาะห์ทรงพอพระทัยท่านบะร็ออฺและบรรดาวีรบุรุษที่ได้กล่าวนามมาแล้วด้วยเถิด

         ทั้งนี้เพราะว่าบรรดาทหารที่เหลืออยู่ทั้งหมดต่างก็วิ่งกรูกันเข้าไปหยุดอยู่เบื้องหน้าของท่าน อัลบะร็ออฺ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าขณะที่ท่านคอลิดเห็นไฟสงครามกำลังลุกลามและทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นนั้น ท่านได้หันไปสั่งท่านอัลบะร็ออฺว่า :

           เจ้าหนุ่มชาวอันซ้อรเอ๋ย จงไปหาพวกทหารเหล่านั้นเถิด

ท่านอัลบะร็ออฺจึงหันไปหาพวกของเขาและกล่าวว่า :

          พี่น้องชาวอันซ้อรทั้งหลาย ผู้หนึ่งผู้ใดอย่าได้คิดเป็นอันขาดว่าจะได้กลับเข้ามะดีนะห์ เพราะในวันนี้ไม่มีมะดีนะห์สำหรับพวกท่านอีกแล้ว มีอัลเลาะห์เพียงองค์เดียว และสรวงสวรรค์เท่านั้น

          ท่านอัลบะร็ออฺและพรรคพวกได้บุกทะลวงเข้าเจาะแนวรบของข้าศึกฝ่ายมุชริกีน ดาบถูกฟาดเข้าใส่ศัตรูของอัลเลาะห์ จนกระทั่งตั้งตัวไม่ติด มุซัยละมะห์กับพรรคพวกต้องถอยร่นระส่ำระสายไม่เป็นขบวน และหนีเข้าไปในสวนแห่งหนึ่งซึ่งต่อมาถูกขนานนามว่า "สวนมรณะ" เนื่องจากมีผู้ล้มตายในสวนแห่งนั้นเป็นจำนวนมาก

          สวนมรณะแห่งนี้มีขอบเขตกว้างขวาง มีกำแพงสูงล้อมรอบทุกด้าน ดังนั้นมุซัยละมะห์ กับกองหทารอีกนับจำนวนหมื่นปิดประตูสวน และใช้แนวกำแพงเป็นป้อมคุ้มกันพวกเขาระดมยิงลูกธนูเข้าใส่ทหารมุสลิมประดุจดังห่าฝนทำให้ฝ่ายมุสลิมล้มตายเป็นจำนวนมาก

          ขณะนั้นหน่วยจู่โจมเคลื่อนที่เร็วของฝ่ายมุสลิมก็รุกคืบหน้าต่อไปอีกอย่างฉับพลัน โดยมีอัลบะร็ออฺผู้กล้าหาญเป็นหัวหน้าหน่วย ท่านสั่งแก่ทหารของท่านว่า :

          ท่านทั้งหลายจงจับฉันวางไว้บนโล่ห์ แล้วยกโล่ห์ตั้งขึ้นไว้บนปลายหอกของพวกท่าน แล้วให้ท่านทั้งหลายช่วยกันโยนฉันเข้าไปในสวนบริเวณใกล้กับทางประตูเข้าบางทีฉันอาจจะต้องตาย หรือไม่ก็อาจจะเปิดประตูสวนนั้นให้พวกท่านบุกเข้าไปได้

          ในชั่วพริบตานั้นท่านอัลบะร็ออฺผู้มีเรือนร่างบอบบางก็ขึ้นนั่งลงบนโล่ห์ หอกสิบกว่าอันก็ยกท่านขึ้น แล้วพุ่งข้ามกำแพงเข้าไปในสวนนั้น ท่ามกลางทหารจำนวนนับหมื่นของมุซัยละมะห์ ท่านตกลงไปในสวนเสียงดังสนั่น แล้วเข้าต่อสู้กับศัตรูตรงหน้าประตูดาบของท่านฟาดฟันศัตรูตายเป็นร้อยๆ และในที่สุดท่านก็สามารถเปิดประตูสวนนั้นได้สำเร็จในการนี้ท่านได้รับบาดแผลจากคมหอกคมดาบถึงแปดสิบกว่าแผล

          เมื่อประตูเปิด ทหารมุสลิมก็ทะลักเข้าไปในสวนนั้น ทั้งทางกำแพงและทางประตูใช้ดาบบุกเข้าฟาดฟันศัตรูพวกออกนอกศาสนา ซึ่งหลบซ่อนอยู่ตามแนวกำแพงสวนจนกระทั่งล้มตายเป็นจำนวนถึงเกือบสองหมื่นคน ทหารมุสลิมเข้าประชิดตัวมุซัยละมะห์และปะทะกันจนกระทั่งมุซัยละมะห์ถูกฆ่าตายในที่สุด

          ส่วนท่านอัลบะร็ออฺนั้น ถูกนำตัวไปรักษา ณ ที่พักของท่าน โดยท่านคอลิด อิบนิลวะลีด เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด และใช้เวลารักษาบาดแผลให้เป็นเวลาแรมเดือน จนกระทั่งอัลเลาะห์ ทรงให้ท่านหายสนิท และทรงกำหนดให้ชัยชนะเป็นของมุสลิมด้วยวีรกรรมความกล้าหาญของ ท่านอัลบะร็ออฺ อิบนิ มาลิก นั่นเอง  

          ท่านอัลบะร็ออฺ อิบนิ มาลิก ยังคงเฝ้าปรารภถึงเรื่องความตายในสนามรบ ซึ่งได้หลุดมือไปในวันทำศึกแห่งสวนมรณะมิได้ขาดปาก ท่านได้เข้าสนามรบอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ปรารถนาจะให้ความหวังของท่านบรรลุผลสำเร็จให้จงได้ ท่านใฝ่ฝันจะได้ใกล้ชิดกับท่านนบีมูฮัมหมัด ผู้ประเสริฐ จนกระทั่งวันสงครามกับพวกเปอร์เซียในการศึกเปิดเมือง "ตุสตัร" ได้มาถึง ซึ่งทหารเปอร์เซียอยู่ในป้อมปราการยักษ์ โดยมีทหารมุสลิมยืนจับมือกันล้อมรอบป้อมนั้นไว้ทุกด้าน

          ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใดพวกเปอร์เซียก็ยิ่งตกอยู่ในฐานะลำบากมากเท่านั้น พวกเขาจึงหาทางออกด้วยการใช้โซ่ผูกกับตะขอเหล็กกล้า แล้วนำไปเผาไฟจนแดงจัด แล้วขว้างผ่านรั้วออกมาและตะขอเหล็กนี้ก็สามารถเกี่ยวดึงเอาทหารฝ่ายมุสลิมไปได้ ซึ่งบางครั้งก็ทำให้ถึงกับตายและบางครั้งก็เกือบถึงตาย

          ครั้งหนึ่งตะขอเหล็กไฟนี้เกี่ยวถูกร่างของท่านอนัส ซึ่งเป็นน้องชายของท่านอัลบะร็ออฺ เมื่อท่านเห็นเช่นนั้น ท่านจึงกระโดดขึ้นกำแพง มือข้างหนึ่งจับสายโซ่ที่เกี่ยวร่างน้องชายเอาไว้ และอีกข้างหนึ่งก็แกะตะขอเหล็กไฟนั้นออกจากร่างของน้องชาย ตะขอเหล็กนั้นเกี่ยวถูกมือของท่านทำให้ไหม้เกรียม แต่ท่านอัลบะร็ออฺก็ไม่สนใจ ในที่สุดท่านก็ดึงน้องชายให้หลุดพ้นจากตะขอดังกล่าวได้สำเร็จ ท่านทรุดลงกองกับพื้น มือของท่านเหลือแต่กระดูกขาวเว่อ ไม่มีเนื้อติดอยู่เลย

ในสมรภูมิดังกล่าวนี้ ท่านอัลบะร็ออฺได้วิงวอนต่อ อัลเลาะห์ ว่า :
 
          ขอได้โปรดประทานความตายเป็นชะฮีด(ตายในสนามรบ)ให้แก่ฉันด้วยเถิด

และแล้วอัลเลาะห์ ทรงรับดุอาอฺของท่าน และท่านก็สิ้นชีวิตในสนามรบได้ดังหวังด้วยการกลับไปพบกับอัลเลาะห์

          ขออัลเลาะห์ ทรงโปรดประทานความดีงามให้แก่ท่านอัลบะร็ออฺ ในสวนสวรรค์ด้วย อามีน...

          ขออัลลอฮฺได้โปรดให้ท่านได้พำนักอยู่พร้อมกับท่านนบีมูฮำหมัด ด้วยเถิด

          ขออัลเลาะห์ทรงพอพระทัยท่านอัลบะร็ออฺ อิบนิ มาลิก และบรรดาผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของพระองค์ด้วยเถิด